โลกสังคมออนไลน์น่ากลัวกว่าที่คิด ใครจะรู้ว่าวันหนึ่ง จู่ๆ แค่สวมใส่รองเท้ามีรู ก็ถูกคนกล่าวหาว่าเป็นโรคจิตแอบถ่ายใต้กระโปรงสาว ๆ จนเจ้าตัวต้องรับเคราะห์ไปโดยไม่รู้ตัว...
ภายหลังจากโลกออนไลน์ และเว็บไซต์ชื่อดังหลายแห่ง ได้แชร์ภาพหนุ่มคนหนึ่ง ที่ปรากฏว่าได้สวมใส่รองเท้าที่มีรูขนาดใหญ่ พร้อมได้ตั้งข้อสังเกตว่า รูรองเท้าดังกล่าวอาจจะเป็นที่เก็บซ่อนกล้อง เพื่อแอบถ่ายใต้กระโปรงสุภาพสตรี จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบเกิดขึ้นกับหนุ่มโชคร้ายรายดังกล่าวอย่างกว้างขวาง จนเจ้าตัวอดรนทนไม่ไหว รุดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และเตรียมที่จะเอาผิดกับผู้ที่ลงโพสต์กล่าวหาจนตนเองได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ นั้น
ล่าสุด ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปเปิดใจหนุ่มผู้โชคร้าย! นายจิรวุฒิ ลิมปนาทไพศาล อายุ 28 ปี หนุ่มพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท ถึงเรื่องราว และความรู้สึก หลังต้องรับเคราะห์กับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของโลกสังคมออนไลน์ในชั่วข้ามคืน...
...
ไทยรัฐ : พอจำได้ไหม ภาพที่เราโดนถ่าย เหตุเกิดวันไหน?
จิรวุฒิ : ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นช่วงกลางคืนวันเสาร์ 2-3 ทุ่ม หลังเลิกงาน ขณะโดยสารรถไฟฟ้าจากสถานีนานา เพื่อไปยังสถานีอุดมสุข
ไทยรัฐ : รู้ตอนไหน ว่าเราเป็นข่าวดังบนโลกออนไลน์
จิรวุฒิ : เย็นวันจันทร์ เพื่อนโทรมาบอกว่าเราเป็นข่าวในโลกโซเชียล และก็เริ่มแพร่สะพัดในวันอังคาร (23 ธ.ค.57)
ไทยรัฐ : นาทีแรกที่เห็นข่าวนี้รู้สึกอย่างไร?
จิรวุฒิ : โหพี่ แทบจะเป็นลมอ่ะครับ นาทีนั้นรู้สึกช็อก
ไทยรัฐ : คิดจะทำอย่างไรในตอนนั้น คิดจะแจ้งความเลยไหม?
จิรวุฒิ : ไม่ครับ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าจะแก้ข่าวอย่างไร เพราะมันไม่เป็นความจริง ก็พยายามไปบอกตามเฟซบุ๊กต่างๆ ที่ลงข่าว ขอให้ลบได้ไหม เพราะเราเป็นผู้เสียหาย ซึ่งหลังจากประสานไป บรรดาเว็บไซต์ต่างๆ ก็ยินดีที่จะลบโพสต์ดังกล่าวให้ ทำให้ตนเองไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร
ไทยรัฐ : รู้สึกอย่างไร ที่หลายๆ แหล่งข่าวแชร์ข่าวไป โดยไม่สืบสวนถึงความเป็นจริงก่อน?
จิรวุฒิ : ก็ไม่เข้าใจ ทำไมคนถ่ายภาพไปแชร์ ไม่มาถามผม ว่าซ่อนกล้องในรองเท้าจริงหรือไม่ และหลายเพจ หลายสื่อก็เอาไปแชร์โดยไม่สืบสวนก่อนถึงเรื่องราวความเป็นจริง ตรงนี้ก็อยากจะตำหนิ และอยากฝากถึงบรรดาเว็บไซต์ชื่อดังต่างๆ และประชาชนทั่วไปว่า หากจะมีการแชร์ข้อมูลอะไร ก็ควรเช็กข้อเท็จจริง ให้ได้ชัดจริงเสียก่อน
ไทยรัฐ : เห็นว่าไปแจ้งความแล้ว?
จิรวุฒิ : ก็ไปลงบันทึกประจำไว้ก่อน ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และอยู่ระหว่างหาทนาย
ไทยรัฐ : ถ้าคนโพสต์ภาพออกมาขอโทษ จะยอมความไหม?
จิรวุฒิ : ถ้าเขามาขอโทษกับผมจริงๆ คงยอมความไป ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่อย่างไรก็ดีผู้ใหญ่ๆ หลายๆ คน ก็อยากให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เพราะการกระทำดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย และไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จึงทำให้มาคิดในอีกมุมหนึ่ง ก็อยากดำเนินคดีดังกล่าว ให้เป็นคดีตัวอย่างบนสังคมออนไลน์
ไทยรัฐ : ชีวิตตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
จิรวุฒิ : ตอนนี้ผมไปทำงานโดยนั่งแท็กซี่อย่างเดียว ไม่กล้าขึ้นรถไฟฟ้าเลยครับ เพราะคนที่เห็นข่าวเราในตอนแรก เขาคงตีความผิดผมไปแล้วว่าเป็นหนุ่มโรคจิตซ่อนกล้อง
ไทยรัฐ : รองเท้าสภาพดังกล่าว ใส่มากี่ปีแล้ว?
จิรวุฒิ : 2 ปีกว่าๆ ครับ ผมไม่ใช่คนเปลี่ยนรองเท้าบ่อยๆ ถ้าไม่พังจริง ผมไม่เปลี่ยนครับ และที่รองเท้าเป็นรู ก็เพราะเกิดจากการที่ตนเองทำงานเป็นช่างซ่อมบำรุง ก่อนหน้านั้นเพิ่งไปอ็อกซ่อมแอร์มา แล้วประกายไฟที่เกิดจากการอ็อกไปโดนรองเท้าที่วางไว้ จนทำให้เกิดรู โดยไม่รู้ตัวเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าใครจะมองไปได้ว่าเป็นรูสำหรับซ่อนกล้อง
...
ไทยรัฐ : จะกลับมานั่งรถไฟฟ้าอีกเมื่อไร?
จิรวุฒิ : ก็คงอีกสักพักใหญ่ๆ เลยครับ เพราะไม่รู้คนในสังคมจะคิดอย่างไร กับข่าวที่ออกไปตอนแรก
ไทยรัฐ : มีอะไรอยากฝากถึงชาวเน็ตไหม?
จิรวุฒิ : อยากให้เคสของผมเป็นกรณีตัวอย่างนะ อยากให้คิดก่อนแชร์ และอยากฝากสื่อฯทั้งหลาย ควรสืบสวนหาความจริงก่อนที่จะแชร์ ไม่ใช่เห็นเขาแชร์ๆ กันมา เราก็แชร์โดยไม่สืบหาความจริง อย่างนี้ใช้ไม่ได้
เอาล่ะ รู้อย่างนี้แล้ว ชาวเน็ตทั้งหลาย พร้อมจะแชร์ข่าวนี้ เพื่อแก้ไขความผิดให้ พี่จิรวุฒิ เขาหรือยัง?