ดช.15เจอไป6แสน ล่อหลอกซื้ออาวุธ! เอไอเอสยกหนี้ให้

เหยื่อเกมมือถือโผล่อีก 2 ราย เป็นเด็กที่ผู้ปกครองซื้อโทรศัพท์ให้ใช้ รายแรกเล่นเกมการต่อสู้คล้ายสงครามสั่งซื้ออาวุธ ซื้อของเหมือนเกมคุกกี้รัน เล่นเพียง 4 วัน ถูกเรียกเก็บร่วม 6 แสนบาท แม่เห็นบิลถึงกับลมใส่ แต่โชคดีเอไอเอสเก็บเพียงค่าโทรศัพท์ไม่กี่ร้อย อีกรายเล่นเกมคุกกี้รันเป็นหนี้ถึง 2 แสนกว่าบาท จนไม่กล้าไปโรงเรียน รอง ผอ.โรงเรียนตามไปปลอบถึงบ้าน รายสุดท้ายที่อุดรธานีโดนไปกว่า 7 หมื่นบาท สรุปที่ผ่านมามีคนตกเป็นเหยื่อเกมบนมือถือแล้ว 6 ราย รวมเป็นเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

เหยื่อเกมมือถือกลายเป็นหนี้ก้อนโตโดยไม่รู้ตัวโผล่รายวัน ล่าสุดมี 3 ราย รายแรกเป็นหนี้ร่วม 6 แสนบาท โดยเมื่อสายวันที่ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ น.ส.อัจฉรา ใจครัว อยู่บ้านเลขที่ 417 ถนนอินทรคีรี ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นเสมียนร้านจำหน่ายเครื่องดื่มในตลาดแม่สอด หลังทราบว่าได้รับบิลเรียกเก็บค่าใช้บริการมือถือรอบประจำเดือนมิถุนายน 57 ร่วม 6 แสนบาท

น.ส.อัจฉราเปิดเผยว่า ซื้อโทรศัพท์ให้ลูกชายคือนายสิทธิชัย ใจครัว อายุ 15 ปี ใช้เพื่อติดต่อสื่อสารกัน แต่ใช้ได้เพียง 4 วัน จู่ๆโทรศัพท์ถูกระงับใช้บริการ ไปสอบถามที่ศูนย์เอไอเอสแม่สอด ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่ามียอดค้างจ่ายจำนวน 596,398.51 บาท พอได้ฟังถึงกับตกใจสุดขีดแต่ก็ทำใจเย็นเพราะคิดว่าอาจเป็นความบกพร่องในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ แต่พอบิลเรียกเก็บเงินของเดือนมิถุนายนมาถึงบ้านเปิดดูแทบลมจับเพราะสูงเกือบ 6 แสนบาทจริงๆ

น.ส.อัจฉรากล่าวอีกว่า หลังทราบดังนั้นรีบไปปรึกษานายจ้างช่วยประสานไปยังบริษัทเอไอเอสเพื่อแจ้งสาเหตุว่าค่าโทรศัพท์ที่แพงลิบลิ่วเป็นเพราะลูกชายนำไปเล่นเกมและสั่งซื้อสิ่งของมาเล่นในเกมจำนวนมากโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเป็นช่วงจังหวะที่ข่าวคนตกเป็นเหยื่อเกมคุกกี้รันในมือถือกำลังดัง กระทั่งเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางเอไอเอสได้แจ้งว่าได้ยกเลิกหนี้สินที่เกิดจากการเล่นเกมทั้งหมดให้แล้วคงเหลือจ่ายเพียงค่าโทรศัพท์เพียงอย่างเดียวจำนวน 614 บาท สร้างความดีใจเป็นอย่างมากเพราะไม่ต้องเป็นหนี้ก้อนโต

...

“หลังรับใบแจ้งหนี้ กินไม่ได้ นอนไม่หลับและห่วงลูกชายจะคิดมากแล้วทำร้ายตัวเอง ส่วนเกมที่ลูกชายเล่นสอบถามแล้วยืนยันว่าไม่ใช่เกมคุกกี้รัน แต่เป็นเกมการต่อสู้มีการให้ซื้อเหรียญ ซื้ออาวุธเหมือนเกมสงคราม ที่ยอมซื้อเหรียญเพราะคิดว่าเขาหักจากโปรโมชั่นโทรศัพท์ที่ใช้เพียง 399 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณบริษัทเอไอเอสที่ยอมยกหนี้จากการเล่นเกมเกือบ 6 แสนบาท รวมทั้งนางอุทัยวรรณ บรรณวัฒน์ นายจ้างที่คอยประสานงานช่วยเหลือ และที่สำคัญเรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับเด็กและผู้ปกครองว่า การเล่นเกมในโทรศัพท์มันอันตรายเพราะหากรู้เท่าไม่ถึงการณ์บางครั้งอาจจะสูญเสียเงินทองโดยไม่รู้ตัว” น.ส.อัจฉรา กล่าว

อีกรายที่ จ.พิษณุโลก นายนุกูล อ่ำอ่วม รอง ผอ.โรงเรียนพุทธชินราชพิทยา และคณะเดินทางไปบ้านเลขที่ 61/5 หมู่ 7 ต.ปากโทก อ.เมืองพิษณุโลก หลังทราบว่ามีเด็กนักเรียนชายของโรงเรียนเล่นเกมคุกกี้รันและถูกบิลเรียกเก็บเงินกว่า 2 แสนบาท พบนายเฉลิมกับนางธนิดา บุญเลิศ พ่อและแม่ของน้องเกมส์ อายุ 13 ปี เด็กนักเรียนคนดังกล่าว พร้อมนำบิลมาให้ตรวจสอบพบยอดจ่ายเฉพาะค่าเล่นเกม 238,968.79 บาท สอบถามน้องเกมส์ให้รายละเอียดว่าไม่คาดคิดว่าจะคิดเงินจริงเข้าใจว่าเป็นเงินในเกมที่เล่นเท่านั้น รู้สึกเสียใจมากที่ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนและอยากฝากเพื่อนๆว่าอย่าหลงไปเล่นเกมในมือถือเลย ส่วนนางธนิดากล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนแรกคิดว่าทางโรงเรียนคงไม่ให้ลูกไปเรียนแล้วเพราะทำให้เสียชื่อเสียง แต่นายนุกูล รอง ผอ.ยืนยันว่า โรงเรียนไม่มีนโยบายเช่นนั้น เด็กทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทางครูและผู้ปกครองต้องช่วยกันแก้ปัญหา ขอให้เด็กไปเรียนหนังสือตามปกติ พอทราบเช่นนี้เลยสบายใจ ส่วนเงินในบิลทางเอไอเอสแจ้งมาแล้วว่าจ่ายเฉพาะค่าใช้จ่ายโทรศัพท์เท่านั้นเลยโล่งใจ

รายต่อมาที่ จ.อุดรธานี มีลูกค้าไม่ประสงค์ออกชื่อนำบิลค่าโทรศัพท์มาสอบถามร้านเทเลวิช สาขาอุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี เนื่องจากค่าบริการประจำเดือนพฤษภาคมที่มียอดเรียกเก็บสูงถึง 70,495 บาท โดยเป็นยอดชำระหมวดสินค้าและบริการเป็นเงิน 70,190.05 บาท โดยลูกค้ารายนี้เปิดเผยว่า ซื้อโทรศัพท์มือถือให้ลูกสาวใช้โปรโมชั่นเดือนละ 299 บาท แต่กลับมีบิลเรียกเก็บเงินกว่า 7 หมื่นบาท จากการตรวจสอบพบว่ามีการสั่งซื้อของในการเล่นเกมคุกกี้รันเหมือนกับเหยื่อรายอื่น

ขณะที่นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็งคอร์ปจำกัด ในนามเทเลวิช สาขาอุดรธานี เปิดเผยว่า รับทราบรายงานจากพนักงานของร้านแล้ว น่าจะเป็นรายแรกของภาคอีสาน ซึ่งตนได้คุยกับเอไอเอสแจ้งให้ทราบกรณีการเรียกเก็บเงินของเกมคุกกี้รัน เบื้องต้นทราบว่าเอไอเอสจะพิจารณาเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น กรณีลูกค้าเกิดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ทั้งนี้ต้องตรวจสอบว่าเป็นความผิดพลาดจริงหรือไม่ แต่เบื้องต้นเอไอเอสคงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความผิดพลาดในรอบบิลนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบการเล่นเกมคุกกี้รันหรือเกมอื่นในโทรศัพท์มือถือที่สูญเสียเงินก้อนโต ตั้งแต่เป็นข่าวใหญ่มีคนตกเป็นเหยื่อมาแล้วทั้งหมด 6 ราย รายแรกที่ จ.สุพรรณบุรี ได้รับบิลแจ้งหนี้โทรศัพท์มือถือ 203,150.71 บาท รายที่ 2 จ.พิจิตร จำนวน 18,239.67 บาท รายที่ 3 จ.เพชรบุรี จำนวน 163,405.55 บาท ล่าสุดที่ จ.ตาก จำนวน 596,398.51 บาท จ.พิษณุโลก จำนวน 238,968.79 บาท และ จ.อุดรธานี 70,190.05 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมดกว่า 1.3 ล้านบาท