บาดหมางกันมาหลายปี "ตาวัย 72" ใช้ปืนลูกซองยิง "กำนัน" เสียชีวิต จากชั้น 2 ในบ้าน พร้อมอ้างเคยโดนข่มขู่-โกรธแค้นสะสมมานาน
วันที่ 23 เมษายน 2568 พ.ต.ท.บุญรอด หนองทุ่ม รอง สว.สอบสวน สภ.ศรีวิไล ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุยิงกันทำให้มีผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณริมถนนในหมู่บ้าน ม.4 บ้านห้วยลีกสันติสุข ต.ชุมภูพร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ชุดสืบสวน สภ.ศรีวิไล หน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไล แพทย์เวรโรงพยาบาลศรีวิไล
เมื่อไปถึงพบศพอยู่บริเวณริมถนนในหมู่บ้าน ทราบชื่อต่อมาคือ นายปิยะนัยต์ เสียงล้ำ อายุ 53 ปี กำนันตำบลชุมภูพร อ.ศรีวิไล ลักษณะนอนหงายเสียชีวิตโดยสวมใส่เสื้อแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีคราม ตรวจสอบพบร่องรอยบาดแผลถูกลูกกระสุนปืนที่บริเวณศีรษะ และหัวไหล่ขวา
จากการสอบถาม นางสุกานดา เสียงล้ำ ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายคำม่วง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เคยมีเรื่องโกรธเคืองและทะเลาะกับผู้เสียชีวิตอยู่เป็นประจำ จากนั้นตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบ นายคำม่วง สุวรรณไตร อายุ 72 ปี อยู่บริเวณข้างบ้าน เมื่อนายคำม่วงเห็นเจ้าหน้าที่มีอาการตกใจ กระวนกระวาย มีพิรุธต้องสงสัย จึงได้ควบคุมตัวและสอบถามนายคำม่วง โดยให้การยอมรับว่า ตนเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้เสียชีวิตจริง ซึ่งยิงจากบริเวณชั้น 2 ของบ้าน ผ่านหน้าต่างลงไปใส่ผู้เสียชีวิต และก่อเหตุเสร็จตนได้เก็บอาวุธปืนไว้ในบ้าน
ต่อมา ได้นำตัวนายคำม่วง เข้าไปตรวจสอบและตรวจค้นภายในบ้านเพื่อหาของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนเบอร์ 12 สีขาวซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้ว จำนวน 1 นัด อยู่บนที่นอนปกปิดด้วยผ้าห่มอีกครั้ง ซึ่งนายคำม่วง ให้การยอมรับว่าเป็นอาวุธปืนที่ตนใช้ยิงใส่ผู้เสียชีวิตจริง ตำรวจจึงคุมตัวนายคำม่วง ไปสืบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ศรีวิไล
...
นายคำม่วง ให้การว่าผู้ตายเป็นญาติห่างๆ ที่ผ่านมาเคยมีเรื่องบาดหมางกันมานานหลายปี เหตุผู้ตายเคยข่มขู่อาฆาตว่าจะสั่งให้ลูกน้องมาทำร้ายฆ่าทิ้ง ข่มขู่ด่าทอสารพัด ใส่ร้ายตนต่างๆ นานา เหมือนไม่ใช่คน ข่มเหงสารพัดอย่าง ขู่จะตามฆ่าตามยิงอยู่ประจำ ผู้ตายเป็นคนหน้ามือกับหลังมือ ต่อหน้าชาวบ้านดูจะเป็นคนดี แต่ลับหลังก้าวร้าว โผงผาง ไม่ให้เกียรติ ไม่รู้ผู้หลักผู้ใหญ่ ด้วยความโกรธแค้นสะสมมานาน เมื่อเช้าตนตื่นขึ้นมาเห็นผู้ตายอยู่หน้าสวน จึงใช้ปืนลูกซองยิงลงมาใส่ แล้วก็ลงไปอาบน้ำ ส่วนปืนนั้นตนซื้อมาในราคา 7,000 บาท เมื่อ 5 ปีที่แล้วกับชายไม่ทราบชื่อ เพื่อไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
ทางด้าน ชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์ เล่าว่า ทั้ง 2 คนมีเรื่องบาดหมางกันมาตลอด ผู้ก่อเหตุเป็นโรคเครียด อยู่บ้านกับหลานชาย ลูกสาวและลูกเขยออกไปอยู่สวนยาง ผู้ตายมักจะนำรถมาจอดไว้ข้างบ้านผู้ก่อเหตุเมื่อมาดูสวน ผู้ก่อเหตุก็มักจะตะโกนด่าทอกัน ทะเลาะกันกับกำนันตลอด
นางวิพัฒ เสียงล้ำ อายุ 72 ปี แม่ของกำนัน เล่าว่า หลายปีมาแล้วสมัยกำนันเลี้ยงแพะ ลูกชายก็จะไปจอดรถไว้ข้างบ้านผู้ก่อเหตุ เป็นทางสาธารณะในหมู่บ้าน เพื่อลงไปดูแพะที่เลี้ยงไว้ในสวน ซึ่งที่ดินของกำนันกลางหมู่บ้านทำเป็นสวนพอเพียง ผู้ก่อเหตุก็ตะโกนใส่กำนันว่าเอารถมาจอดทำไมตรงนี้มันเกะกะ ลูกชายปลูกต้นกล้วย ปลูกหน่อไม้ ก็โดนผู้ตายต่อว่า ทั้งที่ปลูกในที่ของตัวเอง ทุกวันนี้ก็มีเรื่องม้า ที่ผู้ตายเลี้ยงไว้ในสวนที่เกิดเหตุว่าไปขี้ใส่บ้านแก ก็คงเป็นชนวนเหตุตั้งแต่นั้นมา
ขณะที่ผู้ก่อเหตุเองก็เป็นคนใจร้อน มีการทำร้ายลูกเขยอยู่หลายครั้ง ลูกเขยก็เป็นคนดี ส่วนกำนันก็เป็นคนดี ใจกว้าง จนได้เป็นผู้นำ เป็นคนโผงผางไปหน่อยแค่นั้น ตั้งแต่รู้จักกับนายคำม่วง ก็รู้นิสัยใจคอเป็นคนที่จำฝังใจ เกลียดใครแล้วแค้นฝังใจ มีครั้งหนึ่งที่ผู้ก่อเหตุด่าทอกำนัน จนลูกสาวได้มาขอโทษขอโพยแทนพ่อที่พูดจาไม่ดี
เมื่อเช้าก่อนเกิดเหตุ กำนันก็มาบอกว่าจะพาลูกสาวไปหาหมอที่ จ.อุดรธานี แต่ขอไปตัดหญ้าให้ม้าที่สวนก่อน ขากลับออกมาเหลือบไปเห็นธงชาติที่อยู่หน้าสวนล้มก็เลยเข้าไปเก็บขึ้นมัดไว้ข้างรั้วตามเดิม ไม่นานตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด พอตำรวจมาถึงถึงรู้ว่าตาคำม่วงเป็นคนยิง
พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากนายคำม่วง ผู้ก่อเหตุที่มีบ้านอยู่ข้างเคียงที่เกิดเหตุ สวนของกำนันโรจน์ ทั้ง 2 มีเรื่องกระทบกระทั่งกันมานานแล้ว เนื่องจากกำนันเลี้ยงสัตว์ เมื่อก่อนแพะ ทุกวันนี้เลี้ยงสุนัข และม้า 1 ตัว ปรากฏว่าม้าที่กำนันเลี้ยง เวลามันร้อนก็ไปนอนพักอยู่ข้างบ้าน ไปถ่ายมูลลงไปที่หน้าบ้าน ผู้ก่อเหตุแล้วมีปากมีเสียงกันหลายครั้ง มีการท้าทายกันไปมา ผู้เกิดเหตุก็เกิดความเครียด เพราะบอกมาหลายรอบแล้ว กำนันก็มารดน้ำต้นไม้ที่สวน ที่อยู่หน้าบ้านของผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงลงมาจากบนบ้านราว 10 กว่าเมตรโดนศีรษะเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนไม่มีมูลเหตุมาจากเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่กำนัน หรือเรื่องส่วนตัวอื่นๆ เบื้องต้นตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา / มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน คุมตัวฝากขังดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนศพกำนันที่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ก็มอบให้ญาติๆ นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.