สังคมโลกกำลังพูดถึงพลังงานสะอาดมากขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจพลังงานก็เบนเข็มไปสู่แนวทางที่จะสร้างคุณค่าให้กับโลกใบนี้ได้แบบยั่งยืน แต่คำถามคือแนวทางหรือกลยุทธ์แบบใดจะนำพาความยั่งยืนที่แท้จริงให้เกิดได้ ซีเค พาวเวอร์ (CKPower) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและมีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำที่สุด เผยแนวคิดน่าสนใจว่า ความยั่งยืนด้านพลังงานของสังคมโลกไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การสร้างและได้รับคุณค่าจากพลังงานสะอาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องมีเรื่องการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีในชุมชนและสังคมควบคู่ด้วย ความยั่งยืนแท้จริงจึงจะเกิดขึ้น แนวคิดนี้ทำให้ CKPower เดินหน้ากลยุทธ์สู่ความยั่งยืน "C-K-P" ที่ให้ความสำคัญกับการผสาน 3 มิติ ทั้งมิติสิ่งแวดล้อม (Clean Electricity) มิติสังคม (Kind Neighbor) และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Partnership for Life) ซึ่งนับว่าเป็นแนวทางสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งสู่การเปลี่ยนผ่านในภาคธุรกิจพลังงาน วันนี้มาหาคำตอบกันว่า CKPower กำลังทำอะไรในวันที่ความยั่งยืนเป็นโจทย์สำคัญของการดูแลโลกใบนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย
“C” (Clean Electricity) ไฟฟ้าสะอาด ในมิติสิ่งแวดล้อม
กลยุทธ์สู่ความยั่งยืน "C-K-P" CKPower ในมิติสิ่งแวดล้อม เป็นการพุ่งเป้าไปที่ไฟฟ้าสะอาด หรือ Clean Electricity ที่ให้ความสำคัญตั้งแต่การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการพลังงาน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพไปพร้อมกัน แต่ยังคงมีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพ ที่ผ่านมา CKPower ได้ให้ความสำคัญในด้านการจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงความหลากหลายทางชีวภาพในการดำเนินธุรกิจตลอดมา ด้วยเหตุนี้จึงไม่เพียงการบริหารจัดการในมุมธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเริ่มต้นจากเรื่องใกล้ตัวอย่างพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในองค์กรด้วย โดยใช้ไฟฟ้าภายในองค์กรจากพลังงานหมุนเวียน 93% (เป้าหมาย 100% ในปี 2586) รวมถึงยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งจากพลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ ให้ได้มากกว่า 95% ภายในปี 2586 อีกด้วย
ส่วนในแง่ของการดำเนินธุรกิจพลังงานสะอาด ในปี 2567 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในเครือของกลุ่มบริษัท CKPower สามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดส่งให้ประเทศไทยได้กว่า 8.8 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) หรือคิดเป็น 16% ของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ในประเทศในปี 2567 โดยสามารถหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี สอดคล้องกับนโยบาย Net Zero ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งลดก๊าซเรือนกระจกได้ 0.91% จากเป้าหมายปี 2567 นอกจากนี้ยังแสดงความมุ่งมั่นในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับประเทศไทย พร้อมกับสานต่อกลยุทธ์ด้านการจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามมาตรฐานสากล รวมถึงแนวปฏิบัติการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ เป้าหมายคือมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่สามารถหวังผลในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2593 ความน่าสนใจอีกประการในการดำเนินธุรกิจของ CKPower คือการให้ความสำคัญเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ โดยบริษัทได้ประเมินผลกระทบคงเหลือจากการปฏิบัติงานของทุกโรงไฟฟ้า เป้าหมายคือ 100% ภายในปี 2569
ผนวก “K” (Kind Neighbor) และ “P” (Partnership for Life) สู่ความยั่งยืน
หากมีเพียงแค่ “C” (Clean Electricity) ซึ่งเป็นมิติสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว กลยุทธ์สร้างความยั่งยืนที่แท้จริงก็อาจเกิดขึ้นไม่ได้ CKPower จึงขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานสะอาด โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนทั้งในมิติทางสังคม และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ อีกด้วย ตามกลยุทธ์สู่ความยั่งยืน "C-K-P" โดยมิติทางสังคม คือการวางตัวเป็นเพื่อนบ้านที่ดี (Kind Neighbor) ที่ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การสร้างสิ่งแวดล้อมของการดำเนินธุรกิจ แต่หมายถึงการมุ่งสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชน สังคม และผู้มีส่วนได้เสียทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมดำเนินงานที่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากลตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ ในขณะที่มิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ เป็นการสร้างพันธมิตรที่ยั่งยืน (Partnership for Life) โดยมุ่งไปที่การเสริมสร้างศักยภาพในการรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ได้ลงทุนในโอกาสทางธุรกิจใหม่ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังบูรณาการนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับภูมิภาค ส่งมอบผลตอบแทนที่เป็นธรรมและยั่งยืนแก่ลูกค้าและผู้ถือหุ้นอีกด้วย
ในปี 2567 ที่ผ่านมา CKPower เป็นเพื่อนบ้านที่ดี (Kind Neighbor) ไม่เพียงเป็นส่วนหนึ่งการดูแลชุมชนและสังคมที่เข้าไปดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิมนุษยชน นั่นเป็นเรื่องหนึ่งที่สร้างความภาคภูมิใจ เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา CKPower ไม่มีกรณีการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชนที่ไม่ได้รับการจัดการจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้วางเป้าหมายเอาไว้ด้วยว่าจะสร้างคุณค่าให้กับสังคมและระบบนิเวศด้วยพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2569 โดยจะเพิ่มการเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนเพื่อสร้างคุณภาพชีวิต จากที่เดิมได้สร้างพลังงานหมุนเวียนเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตชุมชนและสังคมสะสมแล้ว 100,330 วัตต์ กับอีกสิ่งหนึ่งที่ทำควบคู่กันมา คือ การส่งเสริมความรู้ด้านพลังงานหมุนเวียนแก่คนรุ่นใหม่เพื่อสร้างฐานความคิดที่แข็งแรงให้กับชุมชนและสังคม โดยมีเด็กและเยาวชนได้รับการส่งเสริมความรู้ด้านพลังงานหมุนเวียนสะสมไปแล้วจำนวน 9,513 คน ขณะเดียวกันแนวทางสู่ความยั่งยืนที่แท้จริงส่วนหนึ่งยังหมายถึงการอนุรักษ์ปกป้องฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย ซีเค พาวเวอร์ (CKPower) จึงได้เพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ปกป้องฟื้นฟูป่าบกแล้วจำนวน 11.06 ไร่ ซึ่งทำควบคู่ไปกับการส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้ได้รับความรู้ด้านการปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนถึงปัจจุบันมีจำนวนกว่า 4,377 คน เป็นกลุ่มคนต้นแบบที่จะเป็นกำลังสำคัญของชุมชน ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการต่อยอดนวัตกรรม สร้างโอกาสพัฒนาอาชีพชุมชน มีชุมชนได้รับการพัฒนาแล้ว 3 ผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ให้ชุมชน 884,350 บาท
ในส่วนกลยุทธ์ “P” - Partnership คือ การขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่และเพิ่มพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจใหม่ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ CKPower ได้ขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียนภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด โดยขายใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs) ร่วมกับ บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด จำนวน 39,660.46 RECs และได้เพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด 3,402 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันยังประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานตามแผนการดำเนินงาน จนทำให้ปัจจุบันมีนวัตกรรมสะสม 19 นวัตกรรม และมีนวัตกรสะสม 68 คน
สำหรับ CKPower แล้ว สิ่งสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจในวันนี้คือการมุ่งมั่นก้าวสู่ผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นการเดินหน้าควบคู่กับการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีในชุมชนและสังคม แน่นอนว่าเป้าหมายคือการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของสังคมโลก ที่ไม่ใช่เพียงการปูทางความฝัน แต่คือการลงมือทำจริงจังอย่างเป็นรูปธรรม