ชาวระยองร้อง นายทุนถมดินสูงมิดหลังคา พอฝนตกลงมาทำให้ดินโคลนไหลเข้าบ้าน ล่าสุด "เทศบาลเมืองมะขามคู่" เข้าตรวจสอบ พบลักลอบดำเนินโครงการโดยไม่ขออนุญาต เร่งขุดร่องทางน้ำ-พร้อมปิดประกาศห้ามถมดิน
วันที่ 17 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีชาวบ้านที่จังหวัดระยอง เดือดร้อนจากทุนจีนแอบลักลอบถมดินสร้างโรงงานสูงท่วมมิดหลังคาชาวบ้าน หน้าแล้งเจอปัญหาฝุ่น พอฝนตกน้ำเซาะดินที่ถมสูงท่วมมิดหลังคาบ้านไหลเข้าทับถมบ้าน จนสุดทนต้องร้อง สส.ช่วยเหลือ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์เทศบาลเมืองมะขามคู่ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ตามที่มีประชาชนหมู่ที่ 1 ตำบลมะขามคู่ ได้ร้องเรียน เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 กรณีท่อระบายน้ำมีขนาดเล็ก และเพิ่มเติมข้อมูลการร้องเรียน การถมที่ดินแปลงข้างเคียงบริเวณถนนซอย 11 หมู่ที่ 1 ตำบลมะขามคู่ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง
เทศบาลเมืองมะขามคู่ได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่แล้ว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 เบื้องต้นยังไม่มีการขออนุญาตขุดดิน/ถมดิน ในแปลงที่ดินดังกล่าว จึงแจ้งให้หยุดดำเนินการและยื่นขออนุญาตขุดดิน/ถมดิน ตามข้อกฎหมายกำหนดต่อไป
ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ เทศบาลเมืองมะขามคู่ เจ้าของท้องที่ได้นำเครื่องจักรกล ทั้งรถแบคโฮขุดลอกร่องน้ำที่อุดตัน เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลระบายสะดวก อีกทั้งยังนำรถดับเพลิงไปทำการฉีดล้างโคลนทรายที่ถูกน้ำไหลพัดเข้าไปทับถมตามบริเวณบ้านเรือนของชาวบ้าน เพื่อทำความสะอาดให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
...
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้ นางสว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ สส.ระยอง พรรคประชาชน ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังชาวบ้านร้องเรียน กล่าวยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้มาก ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบ้านบางหลัง ตัวบ้าน กำแพงรั้วบ้านเริ่มทรุด ยอมรับน่ากลัว และจากการตรวจสอบ ไม่ทราบว่าโครงการนี้เป็นโครงการอะไร และเป็นของใครเพราะไม่มีการติดป้ายประกาศ
สอบถามเทศบาลเมืองมะขามคู่ เจ้าของท้องที่ ยืนยันว่า ยังไม่มีการขออนุญาต และไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของโครงการ โดยชาวบ้านระบุว่า ได้เริ่มมีการก่อสร้างและถมดินมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่าจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ทราบว่าโครงการนี้เป็นของใคร และจะก่อสร้างอะไร และจะยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าโครงการนี้ทำผิด พ.ร.บ.ทั้งหมดเลย อย่างไรก็ดี สำหรับพื้นที่ดังกล่าวนี้มีเนื้อที่ประมาณกว่า 50 ไร่
โดยชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า โครงการนี้น่าจะเป็นของกลุ่มนายทุนจีน เพราะราคาที่ดินบริเวณนี้ค่อนข้างราคาสูงตกไร่ละ 4-5 ล้านบาท และคาดว่าจะเป็นการถมดินพื้นที่เพื่อสร้างโรงงาน ทั้งนี้จากการสังเกตยังพบว่าพื้นที่ใกล้เคียงกัน พบโรงงานทุนจีนสร้างกระจัดกระจายอยู่อีกนับสิบโรงงานด้วยกัน
