สงกรานต์ทุกปี ตอนแม่ผมยังอยู่ เมื่อลูกชายกลับบ้านไปกราบ... แม่จะลูบหัวให้พร “เป็นเจ้าคนนายคนนะลูก” วันนี้ผมทำอารมณ์ผู้ใหญ่ หากหลานๆ ก็หลายคน...หลานหัวปีเกษียณอายุมาก็หลายปี มากราบผมตั้งใจสอนหลานด้วยนิทานอมตะของจีนเรื่องต่อไปนี้ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่บ้านไร่ชายแดน มีผู้เฒ่าคนหนึ่ง ม้าที่เขาเลี้ยงไว้ตัวหนึ่งหายไปลูกๆหลานๆและคนในบ้านรวมไปถึงคนในชายคาใกล้เคียง เลียบๆเคียงๆมาดูท่าที ไม่มีใครเห็นผู้เฒ่าแสดงท่าทีเสียดาย หรือเสียใจแต่ประการใดออกมาอีกไม่นานนัก...ก็มีเรื่องเหลือเชื่อ ม้าตัวนั้นไม่แค่จะพ่วงพีแข็งแรงกว่าเดิม มันยังกลับมาเข้าคอกเก่า...พร้อมด้วยม้าดีๆอีกหลายตัวข่าวดีถึงขนาดนั้น พ่อเฒ่ากลับไม่ได้แสดงความดีใจออกมา ทั้งสีหน้าและแววตาพ่อเฒ่าก็ยังรักษาท่วงท่าเฉยชาไว้เช่นเดิมเวลาผ่านไป ในขณะที่ลูกชายพ่อเฒ่าปลื้มใจกับโชคหลายชั้น จากการได้ม้าดีฟรีมาหลายตัว เขาเริ่มรักผูกพันกับม้า วันๆก็เอาแต่ขี่ม้าเที่ยวเล่นข่าวร้าย...ลูกชายพ่อเฒ่าตกม้าขาหักรักษาไม่หาย กลายเป็นชายพิการ...พ่อเฒ่าก็ยังรักษาอารมณ์ไว้คงเดิม ไม่มีท่าทีเสียอกเสียใจ ดูแลกันไปตามเหตุผลที่จำเป็นท่ามกลางความรู้สึกหมั่นไส้จากเพื่อนบ้าน ต่อมาอีกไม่นาน บ้านเมืองเกิดสงคราม ลูกชายของทุกๆบ้านถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารออกรบถึงเวลานั้นโชคร้ายที่ลูกชายพ่อเฒ่าตกม้าขาหักเป็นคนขาเป๋ ก็กลายเป็นโชคดีที่ไม่ถูกเกณฑ์ไปรบเพราะหลังจากนั้นหลายคนไม่ได้กลับบ้านเพราะตายในสงครามเรื่องเล่าของผู้เฒ่าเมืองชายแดน มีคำสอนว่า...การประกอบซึ่งกันและกันของทุกข์และสุขเป็นเรื่องที่ผู้คนคาดคิดไม่ได้ คนที่รู้จักปลงอย่างผู้เฒ่าเท่านั้น จึงสามารถมองความสุขและความทุกข์ ความราบรื่น ความล้มเหลวไม่มีอะไรแตกต่างกันนอกจากเรื่องของผู้เฒ่า ยังมีเรื่องของอิ่นจื่อเหวิน เขาเคยเป็นอัครมหาเสนาบดีแคว้นฉู่ ยุคจั้นกว๋อ อยู่ถึงสามสมัย วันที่เขาถูกปลด เขาไม่ได้แสดงความรู้สึกเสียใจอาลัยตำแหน่ง แนะนำผู้รับหน้าที่คนใหม่ ควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไรต่อไปและเมื่อถึงวันที่กลับมารับตำแหน่งใหญ่ เขาไม่ได้แสดงท่าทียินดีปรีดา ทำหน้าที่ซื่อตรงคงมั่นไม่หนาวร้อนคนทุกคนเมื่อเกิดตกฟากเปล่งเสียงร้อง อุแว้ๆ คงไม่รู้ว่า ระหว่างเวลาคลอด แม่ท่านวนเวียนอยู่ริมขอบเหวความเป็นความตาย เช่นเดียวกับมหาเศรษฐีมีเงินท่วมหัว แต่เวลานอนก็ตาไม่หลับ เพราะความกังวลจะถูกโจรปล้นการกำเนิดชีวิต และการมีเงินมหาศาล ดูเหมือนเป็นเรื่องน่ายินดี แต่มันก็มีอีกด้านที่น่าวิตกกังวล ในทุกความยินดีปรีดาก็จะแฝงเร้นด้วยพันธุ์พืชแห่งวิตกอยู่ด้วยเสมอคนยากจนมักโอดครวญเพราะความทุกข์ ครั้นเมื่อเขาเงยหน้าอ้าปากมั่งมี เขาจึงรู้ตัวว่ามีวันนี้เพราะรู้จักประหยัดมัธยัสถ์ คนป่วยหนัก เมื่อหายจึงรู้จักรักษาถนอมร่างกายเมื่อเป็นเช่นนี้ ความยากจนกับการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วงกังวล อีกด้านก็กลับมีเรื่องที่น่ายินดีเรื่องของคนแก่จะสอนลูกหลาน ซึ่งก็แก่ไปด้วยกัน แต่ระดับความปลงตก...ในหัวจิตหัวใจยังไม่เท่ากัน จึงต้องสอนกันด้วยนิทาน เรื่องยาวๆ...หากพวกเขาเข้าใจชีวิตที่เหลือไม่มาก ก็น่าจะราบรื่นกว่าเขียนมาถึงตอนนี้ คิดถึงคำพรของแม่...ครับ นี่ถ้าแม่ผมยังอยู่ให้พรว่า เป็นเจ้าคนนายคนนะลูก ผมจะตอบแม่ว่า เป็นเจ้าคนนายคนนั้นแบบทุกข์มากกว่า ถ้าเลือกได้ ผมขอเป็นบ่าวเป็นไพร่ ทุกข์เบากว่ากันมากคนแก่รุ่นผมคิดได้อย่างนี้ ผมจึงแปลกใจ คนแก่รองจากผมอีกคน ยอมให้ลูกเป็นนายกฯได้อย่างไร ขนาดของทุกข์ของคนทั้งบ้านเมืองนั้น หนักหนาใหญ่มหาศาล พ่ออะไรจะใจร้ายกับลูกได้ขนาดนั้น.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม