TOA จับมือ JOMOO บุกตลาดสุขภัณฑ์ไทย ตั้งเป้ายอดขาย 200 ล้านบาทใน 3 ปี พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำ ‘SMART Bathroom & Eco-friendly’ ยกระดับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่แบบไฮคลาส
บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำนวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างรักษ์โลกครบวงจร เปิดเกมรุกขยายธุรกิจสู่ตลาดสุขภัณฑ์เต็มรูปแบบ ล่าสุดจับมือ JOMOO แบรนด์สุขภัณฑ์ระดับโลก พร้อมเปิดตัว ‘SMART Bathroom Solutions’ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ด้วยเทคโนโลยี - ดีไซน์ทันสมัย ใส่ใจต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TOA เปิดเผยว่า ตลาดสุขภัณฑ์ในไทยยังมีศักยภาพเติบโตสูง เนื่องจากเหตุและปัจจัยของพฤติกรรมผู้บริโภคที่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพสูง มีเทคโนโลยี ดีไซน์ และใส่ใจต่อสุขภาพยังมีจำนวนมาก ผนวกกับความแข็งแกร่งของเราในเรื่องทีมขายที่มีขนาดใหญ่ ทั้งพันธมิตรโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และเครือข่ายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมทั้งเรายังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุปกปิดพื้นผิวที่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ และมีโซลูชั่นต่างๆ อย่างครบระบบ ทั้งสีทาอาคาร สีตกแต่งพิเศษ สีงานไม้ สีอุตสาหกรรม กลุ่มฮาร์ดแวร์ สเปรย์ กาว กระดาษทราย เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง เช่น ปูนกาวซีเมนต์ กระเบื้องเซรามิกสำหรับปูพื้นและผนัง แผ่นฝ้ายิปซัม (ปัจจุบันที่เราเป็นเบอร์ 2 ในตลาด)
เฟสที่ 1: สร้างการรับรู้ในแบรนด์ JOMOO สู่ผู้บริโภคในตลาดไทย เน้นการเจาะกลุ่มตลาดงานโครงการ ซึ่งเป็นจุดแข็งของ TOA พร้อมสร้างการรับรู้ผ่าน Project Reference โดยการเปิดตัวเรือธง Smart Toilet เทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ • เสียงเบาเพียง 38 เดซิเบล เทียบเท่าความเงียบในห้องสมุด • Anti-Bacteria Seat ลดการสะสมของแบคทีเรียได้มากกว่า 99% (มาตรฐาน SIAA) • ก้านฉีดแพลทินัม ช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรีย เพื่อความสะอาดและสุขอนามัยที่มั่นใจ
เฟสที่ 2 การขยายตลาดไปสู่ร้านค้าตัวแทนจัดจำหน่ายกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ และขยายฐานลูกค้าตลาดงานโครงการ ครอบคลุมทั้งแนวราบและแนวสูง รวมถึงงานปรับปรุงและงานราชการอีก 20-30% รวมทั้งการเปิดโชว์รูมเพิ่มอีกเป็น 5 แห่ง
เฟสสุดท้าย กับการมุ่งสู่การเป็น SMART & Digital Intelligence Bathroom แบบเต็มรูปแบบ ด้วยการเพิ่มสินค้าที่มีระบบดิจิทัลมากขึ้น เช่น ระบบ Voice Control, Health Checkup system, Seamless Digitalization System & Eco-friendly เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มีจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง ดังนี้ 1. นวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบ Hydro Force Flush ที่ทำงานเงียบเพียง 38 เดซิเบล เทคโนโลยี Touchless Digital และระบบควบคุมอัจฉริยะผ่านแอปพลิเคชัน 2. สุขอนามัยขั้นสูงสุด (Hygienic Design) ด้วย Anti-bacteria System, ระบบดับกลิ่น ระบบ UV Water Sterilization และชิ้นส่วนวัสดุปลอดสารตะกั่ว โลหะหนัก 3. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainability) เป็นแบรนด์สุขภัณฑ์รายแรกของโลกที่ใช้ระบบ Eco-friendly Dark Factory เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ Carbon Footprint เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย NET ZERO 5. ดีไซน์หรูหราและทันสมัย รองรับทั้งการใช้งานในที่อยู่อาศัยและโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบไฮคลาส
