เปิดใจ หมอเจี้ยบ ทำข้าวกล่อง น้ำดื่ม แจกชาวบ้านกับผู้ยากไร้ทุกวันนาน 4 ปี เผยทุกวันนี้ไม่ได้เดือดร้อนเงินทอง มีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของทุกคน
วันที่ 28 มีนาคม 2568 มีรายงานว่า ในโซเชียลมีการแชร์เรื่องราวการแบ่งปัน การแจกข้าวกล่องทุกวันมาถึง 4 ปี เป็นที่ฮือฮาและทำเอาหลายคนที่ได้ดูต่างชื่นชมเป็นจำนวนมาก ต่อมาผู้สื่อข่าวสืบทราบถึงพิกัดดังกล่าว อยู่ริมถนนสายหลังวัดเกาะโตนด ใกล้กับร้านซุปหางวัว ป้าออ ซึ่งเป็นบ้านเช่าเลขที่ 24/11 หมู่ 5 ต.เกาะขวาง อ.เมือง จ.จันทบุรี ต้องสะดุดตากับข้าวกล่องจำนวนมากที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะพร้อมกับน้ำดื่ม โดยที่มีชาวบ้านต่างพากันเดินทางมารับข้าวกล่องพร้อมกับน้ำดื่มอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายตั้งแต่เช้า
โดยนางนิธิกานต์ แจ่มใส หรือ หมอเจี้ยบ ในวัย 50 ปี ซึ่งเป็นผู้ใจบุญ พร้อมกับแม่ครัวและทีมงาน ที่กำลังสาละวนจัดเตรียมข้าวกล่อง ด้วยเมนูอาหารที่ทานง่ายๆ ตักราดข้าวใส่กล่อง หยิบยื่นให้กับผู้ที่เดินทางมารับน้ำใจครั้งนี้ ซึ่งเป็นภาพชินตาในทุกวันของชาวบ้านละแวกนี้ หรือผู้ที่ผ่านไปมา

...
ด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ กับข้าวหอมมะลิ จัดทำเมนูอาหารวันละหนึ่งอย่าง รสชาติอร่อยและเน้นความสะอาด ทำให้ต้นทุนต่อวันอยู่ราว 3,000 บาท ซึ่งก็จะได้ข้าวกล่องกับน้ำดื่ม มากกว่าวันละ 250 ชุด หรือ 250 กล่อง จากแต่ก่อน 40 ชุด ขึ้นมาเป็น 60 ชุด จนทุกวันนี้ 200 - 250 ชุดต่อวัน และหมดทุกวัน ซึ่งบางวันก็ไม่พอแจก

นางนิธิกานต์ หรือ หมอเจี้ยบ เล่าว่า ย้อนหลังไปจากสถานการณ์โควิด-19 เมื่อหลายปี ทำให้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม หลายคนเสียโอกาสทำรายได้หดหาย แต่รายจ่ายยังคงมี ซึ่งในช่วงนั้นตนเองจึงมีแนวคิดเรื่องการแบ่งปันช่วยเหลือกัน ในปี 2562 ด้วยกำลังทรัพย์ที่พอมี และคนที่รู้จัก ลูกศิษย์ลูกหา จึงได้จัดหาข้าวสารมาแจกจ่าย จนกระทั่งปี 2564 จึงได้เริ่มทำข้าวกล่อง น้ำดื่มแจกให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้ยากไร้ ควบคู่ไปกับการแจกข้าวสารอาหารแห้ง และสนับสนุนให้กับโรงเรียน, เครือข่ายผู้พิการในจังหวัดที่ร้องขอมา
จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เป็นระยะ 4 ปีเต็ม ก็ยังจัดทำข้าวกล่องแจกพร้อมกับน้ำดื่มทุกวัน แต่จะหยุดจัดเตรียมของอาทิตย์ละ 1 วัน คือวันอาทิตย์ โดยวัตถุดิบทำข้าวกล่องจะซื้อวันต่อวัน ส่วนไหนหมดก็จะซื้อเพิ่มเติมมาทำต่อ ซึ่งก็จะเป็นเมนูอาหารหลักไม่ซ้ำ ตักใส่กล่องราดข้าวทานได้เลย หลังจากตักบาตรพระเสร็จตอนเช้าก็จะเริ่มแจกจ่าย ทำให้แต่ละวัน ก็จะมีชาวบ้าน แรงงาน คนหาเช้ากินค่ำ ผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย แวะเวียนมารับข้าวกล่องไปทาน

ส่วนทุนที่นำมาจัดทำข้าวกล่องแจกจ่ายทุกวัน นางนิธิกานต์ บอกว่า เป็นรายได้มาจากการเป็นหมอดู ประกอบกับการที่ตนเองนับถือท้าวเวสสุวรรณ จึงทำให้มีโชคลาภ ทุกวันนี้จึงเปิดเป็นตำหนักท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งมีลูกศิษย์ที่เป็นสายมู เลื่อมใสศรัทธา เห็นด้วยกับการทำข้าวกล่องแจก เพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายของชาวบ้าน จึงได้ช่วยกันบริจาคสมทบทุน หรือจัดซื้อวัตถุดิบต่างๆ มาจัดทำข้าวกล่อง ส่วนทุกวันนี้ตนเองไม่ได้เดือดร้อนเงินทอง เพราะพื้นเพครอบครัวที่ จ.ชลบุรี มีธุรกิจอยู่แล้ว และลูกๆ ก็มีกิจการเป็นของตนเอง ตนจึงนำเงินที่ได้มาจัดทำข้าวกล่องแบ่งปันให้กับชาวบ้าน และย้ำให้ทุกคนรู้จักพอ ละความโลภ อย่าอยากได้ อย่าอยากทำอะไรที่เกินตัว ก็จะไม่มีหนี้สิน ซึ่งทำข้าวกล่องแจกทุกวันนี้ ก็มีความสุขในใจดีที่ได้เห็นรอยยิ้มของทุกคน

...
ขณะที่ ป้าหลิน อายุ 57 ปี ขี่ซาเล้งเดินทางมาพร้อมหลาน จากบ้านคลองน้ำเค็ม อ.แหลมสิงห์ มารับข้าวกล่อง และข้าวสารอาหารแห้ง บอกว่า รู้สึกดีใจมากที่ยังมีคนที่มีน้ำใจช่วยแบ่งปัน ที่บ้านตนอยู่กันหลายคนส่วนใหญ่เป็นเด็ก รายได้จากงานรับจ้างทั่วไปวันละ 300 กว่าบาท หักค่าใช้จ่ายแล้วแทบจะไม่พอในแต่ละวัน ซึ่งเดินทางมารับข้าวกล่องและข้าวสาร ก็ช่วยเบาแรงไปได้วันละเป็นร้อย จึงยอมเติมน้ำมันขี่ซาเล้งมารับของแจกที่นี่กว่า 1 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าระยะทางจะไกลหน่อย แต่วันไหนไม่มีงานก็ขี่รถมารับข้าว.