อุดรธานี ชาวบ้านชี้ผิดจารีตประเพณี เด็ก ม.6 จัดงานศพแม่ตายทิพย์ ตั้งโลงไว้บนบ้าน ครูและเพื่อนนักเรียนแห่ไปร่วมงานมอบเงินใส่ซองช่วยเหลือ แต่ครูสงสัยเกิดคำถามในใจ ทำไมบ้านงาน ไม่มีคนมาช่วยเลย ผู้ใหญ่บ้านบุกพิสูจน์ความจริง เปิดโลงถึงกับผงะ เจอต้นกล้วยห่อผ้าขาว หนุ่ม ม.6 อ้างตอนแรก จับสลากทำโครงงานส่งคุณครูได้ “วิถีอีสาน” จึงทำคอนเทนต์งานศพ โบ้ยเพื่อนเป็นคนไปแพร่กระจายข่าว อีกทั้งยายบอกให้แก้เคล็ด เพราะแม่ดวงตกชะตาขาด

วันที่ 25 มีนาคม 2568 ที่ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเรื่องราวน่าสงสัยและประหลาดใจ ที่บ้านศรีวัฒนา ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี โดยมีเด็กนักเรียนชาย ชั้น ม.6 ตั้งโลงศพของแม่ตัวเองไว้บนบ้าน แล้วมีเพื่อนๆ และครูในโรงเรียนมาร่วมแสดงไว้อาลัยแสดงความเสียใจ แต่ที่น่าแปลกใจคือ ชาวบ้านไม่มีใครรู้เรื่องเลยว่ามีคนตายในหมู่บ้าน แต่ปรากฏว่าเมื่อเปิดโลงศพดูแล้วกลายเป็นต้นกล้วยตัดเป็นท่อน ห่อหุ้มด้วยผ้าขาว ไม่มีศพผู้เป็นแม่แต่อย่างใด

นายศรีสวัสดิ์ โพธิ์ธิวัฒน์ หรือผู้ใหญ่ติ๊ก ผู้ใหญ่บ้าน ทราบเรื่องจึงพาคณะกรรมการหมู่บ้านไปตรวจสอบ พบว่าที่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 8 เป็นบ้านไม้สองชั้น มีการตั้งโลงศพที่บนบ้านจริง โดยตั้งโลงศพไว้ที่ชั้น 2 ของบ้าน บรรยากาศคล้ายงานศพ มีไฟกระพริบบนโลง คนร่วมงานในครอบครัวแต่งชุดดำ นั่งอยู่ข้างโลงศพ เสมือนว่าเป็นงานศพจริง เมื่อคณะกรรมการไปถึง ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการจึงไปทำการเปิดโลงศพเพื่อขอตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าเมื่อเปิดโลงศพถึงกับผงะไม่มีศพแต่อย่างใด พบแต่ท่อนกล้วยห่อหุ้มด้วยผ้าขาว

ผู้ใหญ่ติ๊กให้การว่า ได้รับแจ้งจากคุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ไอซ์เรียนอยู่ ว่าที่หมู่บ้านของ ผญบ.มีงานศพของผู้ปกครองนักเรียนเสียชีวิต ผู้ใหญ่บ้านทราบเรื่องมั้ย ผมจึงถามไปว่า บ้านของใคร มีคนตาย ขอภาพมาด้วย ซึ่งปกติ เวลามีคนเสียชีวิตในหมู่บ้าน ผมจะแจ้งลูกบ้านทุกคนให้ทราบ เพื่อจะได้ช่วยกันไปร่วมงานศพและช่วยดำเนินการจัดการ และมีเงินฌาปนกิจของหมู่บ้านที่จะต้องช่วยกันนำไปมอบให้ญาติ ในขณะเดียวกัน นายไอซ์ได้โพสต์ในไอจีส่วนตัวว่า แม่เสียชีวิต ขอบคุณเพื่อนๆ ที่มาช่วยและขอบคุณคุณครูที่มาร่วมทำบุญให้แม่

...

“ผมได้สอบถามแล้ว ไม่มีใครทราบเรื่อง แต่ที่บ้านงานมีโลงศพตั้งอยู่บนชั้นสองของบ้าน เป็นที่น่าสังเกต ไม่มีโลงเย็นบรรจุศพ ไม่มีเต็นท์เพื่อช่วยบังแดด ไม่มีชาวบ้านมาช่วยงาน ตนจึงเปิดเครื่องหอกระจายข่าว ให้ชาวบ้านมาประชุม เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องราวนี้ ไม่มีใครรู้ว่ามีคนตายในหมู่บ้าน ปกติเมื่อมีคนตาย ผมจะต้องทราบเรื่องก่อน และได้แจ้งชาวบ้านให้ไปช่วยงานทุกครั้ง”

ผู้ใหญ่ติ๊กเล่าต่อว่า จากนั้น ขึ้นไปบนบ้านบริเวณที่ตั้งโลงศพ มียายคือนางเดือนดี นั่งอยู่ข้างๆ โลงศพ แต่งตัวด้วยชุดดำที่โลงศพมีไฟกระพริบ ทำเหมือนงานศพจริง ผมจึงไปเปิดดูโลง เห็นเป็นต้นกล้วยอยู่ในโลง มีผ้าขาวห่อศพ จึงบอกให้รีบจัดการในคืนนี้ให้เรียบร้อย ซึ่งผมให้คณะกรรมการไปเฝ้าดูตลอดเวลา และมีรายงานว่าตายายของนายไอซ์ได้เอาโลงศพไปเผาในที่นาของตนแล้ว

เด็ก ม.6 จัดงานศพทิพย์ โป๊ะแตกเปิดโลงเจอต้นกล้วยห่อผ้าขาว อ้างแก้เคล็ด แม่ดวงตก

ในเวลาเดียวกัน ในช่วงนั้นผมได้สอบถามนายไอซ์ ได้รับการบอกเล่าว่า นายไอซ์ได้ทำโครงงานส่งครู แล้วจับสลากได้ “วิถีอีสาน” ตนจึงทำเรื่องเกี่ยวกับงานศพ แต่พอเรื่องราวต่างๆ แพร่กระจาย นายไอซ์โพสต์ในไอจีในเชิงตัดพ้อชาวบ้าน คล้ายๆ กับถูกชาวบ้านกลั่นแกล้ง ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ

ด้านแม่เข็มพร ชูจีน เพื่อนบ้าน ได้เล่าว่า ในช่วงที่ผู้ใหญ่บ้านประชุม ตนได้ไปประชุมด้วย ซึ่งทุกคนลงความเห็นว่า ผิดประเพณี ไม่ควรทำแบบนี้ จากนั้น ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. นายคืน ตานายไอซ์ได้พาหลานไอซ์เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปบวชที่ต่างอำเภอแล้ว

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านของนางเดือนดี ซึ่งเป็นยายของนายไอซ์ ได้บอกว่า มีงานศพจริง แต่เป็นงานที่แก้เคล็ด เนื่องจากมีชีปะขาวบอกว่า ช่วงนี้แม่ของไอซ์ที่ทำงานอยู่ กทม. ชะตาขาด น้องไอซ์จึงได้ทำพิธีแก้เคล็ด ตนยอมรับว่ามีตั้งโลงศพจริง แต่เป็นการทำแก้เคล็ด เนื่องจากมีคนมาทักว่าแม่ของหลานที่อยู่ต่างจังหวัด ชะตาขาด จึงทำพิธีต่อดวงชะตา

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบ้านดุง เพื่อพบกับน้องเก่ง นามสมมุติ เพื่อนนายไอซ์ โดยน้องเก่งเล่าว่า วันนั้นผมทำกิจกรรม ไม่ได้เปิดดูโทรศัพท์ เมื่อเปิดโทรศัพท์ดู ก็เลยเห็นเป็นการโทรเข้ามาหลายสาย จากไอซ์ จากนั้นเพื่อนๆ ถามผมว่า รู้ข่าวแม่ไอซ์เสียแล้วยัง ก็เลยมีการโทรพูดคุยกับไอซ์ เขาเป็นคนบอกผมเอง ว่าแม่เขาเสีย แล้วก็บอกเพื่อนๆ เองว่าแม่เขาเสียแล้ว เราก็อยากชัดเจนผมก็เลยให้เพื่อนๆ ไปที่บ้านของไอซ์ก่อน แล้วขอเปิดโลงดู ซึ่งไอซ์เปิดฝาโลงให้เห็น ส่วนเท้าซึ่งเพื่อนที่เห็นได้ยืนยันแม่ว่าแม่ไอซ์เสียแล้วจริงๆ ผมเชื่ออย่างสนิทใจ

เด็ก ม.6 จัดงานศพทิพย์ โป๊ะแตกเปิดโลงเจอต้นกล้วยห่อผ้าขาว อ้างแก้เคล็ด แม่ดวงตก

...

ผมจึงไปแจ้งครู ครูทุกท่านที่ทราบข่าวก็ตกใจ พากันรวบรวมเงินมาช่วยงานศพ เมื่อไปถึงบ้าน เจอไอซ์และตานั่งอยู่ข้างๆ โลงศพสวมเสื้อผ้าสีดำ ซึ่งมีกระถางธูปสำหรับจุดหน้าศพ มีไฟกระพริบเสมือนงานศพจริงๆ ครูได้มอบเงินเพื่อช่วยงานศพ พร้อมถ่ายรูป พร้อมๆ กับคำถามในใจ ซึ่งแตกต่างจากงานศพทั่วๆ ไป คือไม่มีชาวบ้านมาช่วยงานศพเลย ครูจึงโทรหา ผญบ.เพื่อสอบถามว่าทำไมไม่มีใครมาร่วมงาน และถามว่าคุณยายไปไหน ไม่อยู่ร่วมงาน จากนั้นความจึงแตกเมื่อผู้นำชุมชนได้มาพิสูจน์

“ไอซ์ได้บอกครูว่าเป็นการแก้เคล็ด หลังเกิดเหตุกลับมาโบ้ยความผิดให้ผม ผมเสียความรู้สึกมาก ทั้งๆ ที่ผมมีความรู้สึกที่ดีๆ ให้ตลอด ไอซ์เป็นคนจิตใจดี มีสไตล์ในการเข้าวัดทำบุญ แต่มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คือหักมุมไปเลย”

ต่อมาผู้สื่อข่าวโทรไปหานายไอซ์เพื่อให้ชี้แจง ซึ่งไอซ์บอกว่า ยายบอกว่าให้แก้เคล็ดให้แม่ เพราะแม่ผมดวงตกชะตาขาด แต่เพื่อนผมโทรไปบอกครู และโทรไปหาผู้นำชุมชนในทำนองว่าปล่อยปละละเลยผม ครั้งแรกผมลงสตอรี่เอง แต่เพื่อนเป็นคนกระจายข่าวเอง

“ข้อเท็จจริง ผมยอมรับว่าผมโบ้ย แต่ผมก็ไม่มีเจตนาจะไปบอกใคร แต่เพื่อนผมมันเป็นคนกระจายข่าวเอง ไปบอกครูบอกผู้นำชุมชน ตอนนี้ผมคงไม่เรียนหนังสือแล้ว เพราะเหตุการณ์นี้ ผมบวชแล้วครับ” นายไอซ์ กล่าว