กองกำลัง BGF เผยจำนวนชาวต่างชาติที่พบจากการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ในเมืองเมียวดี ติดค้างต้องการกลับประเทศ 7,141 คน จาก 28 สัญชาติ เป็นชาวจีนมากถึง 4,860 คน
วันที่ 26 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เมียนมา จ.เมียวดี ผลจากปฏิบัติการในการกวาดล้างของ BGF ที่ พ.อ.หม่อง ชิตตู่ ผู้นำ BGF (กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง หรือ กะเหรี่ยง BGF (Karen Border Guard Force-Karen) ประกาศตั้งแต่ 16 ก.พ. เป็นต้นมา จากมาตรการตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ควบคู่ไปกับการผนึกแนวชายแดน เพื่อตัดตอนเมืองสแกมเมอร์รอบชายแดนไทยได้ดำเนินการมาตลอด ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
โดยใช้นโยบาย 3 ตัด กับเขตชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีฐานสแกมเมอร์ตั้งอยู่บนพื้นที่ของกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ใช้เป็นฐานที่ตั้งของกาสิโนและบริษัทพนันออนไลน์ โดยมีกลุ่มสแกมเมอร์เข้าไปตั้งฐานปฏิบัติการ

เริ่มมีการคัดกรองผู้คนที่เข้าออกตามจุดผ่านแดนถาวรอย่างละเอียดมากขึ้น รวมถึงไล่ตัดสายส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต เสาส่งสัญญาณต่าง ๆ โดยพร้อมกันนี้มีการเสนอแนวคิดสร้างกำแพงกั้นระหว่างไทย-กัมพูชา และติดตั้งกล้องวงจรปิด หลังจากพบว่าช่องทางธรรมชาติกลายเป็นจุดลักลอบข้ามแดน ราวกับว่าแค่เดินหายไปหลังบ้านใครสักคนจากฝั่งไทย ก็สามารถโผล่ไปยังประเทศกัมพูชาได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพาสปอร์ต
...
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการปราบปรามบัญชีม้า และกำหนดให้ชื่อผู้ใช้งานต้องตรงกับชื่อเจ้าของซิมโทรศัพท์มือถือสำหรับผู้ใช้บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน (Mobile Banking)
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่ BGF ได้รวบรวมกลุ่มคนที่ไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมาได้กว่า 7,000 คนแล้ว ซึ่งเป็นผลจากปฏิบัติการในการกวาดล้างของ BGF ที่ พ.อ.หม่อง ชิต ตุ ผู้นำ BGF ประกาศตั้งแต่ 16 ก.พ. โดยขณะนี้คัดแยกสัญชาติเรียบร้อยแล้ว พร้อมเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทยและทุกประเทศ ให้เร่งดำเนินการในการนำเหยื่อค้ามนุษย์ที่เข้าไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์และชาวจีนจำนวนมากที่ทำงานในบริษัทแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งทางการจีนถือเป็นอาชญากรในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา คนเหล่านี้กลับประเทศของตัวเอง

แต่จนถึงขณะนี้ ยังมีติดค้างอยู่ในศูนย์พักพิง ระหว่างรอสถานทูตต่างๆ ประสานรับตัวกลับอีกเกือบ 7,000 คน ติดค้างอยู่ในฝั่งเมียนมา โดยฝั่งไทยคาดว่าจะไม่รับข้ามแดนมาเพิ่ม หากสถานทูตปลายทางประเทศต่างๆ นั้นยังไม่พร้อมรับ
จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย หากกองกำลังกะเหรี่ยงดูแลผู้คนเหล่านี้ไม่ไหว และอาจลอยแพคนเหล่านี้ จึงมีความพยายามหนีข้ามช่องทางธรรมชาติที่มีมากกว่า 30 ช่องทางเพียงเดินข้ามฝั่งแม่น้ำเมยมาไม่ถึง 20 เมตรบางแห่ง มาขอความช่วยเหลือยังฝั่งประเทศไทย

ต่อมา พล.ต.หม่อง ชิตตู่ ผู้นำ BGF แจ้งผลการคัดแยกชาวต่างชาติ ที่ทางกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง BGF รวบรวมได้จากปฏิบัติการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ในเมืองชเวก๊กโก่ เมืองเมียวดี และเมืองเคเคปาร์ค ที่เปิดปฏิบัติการกวาดล้างมาตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 68 พบว่า มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 7,141 คน เป็นชาย 6,716 คน หญิง 425 คน จำนวน 28 สัญชาติ 29 ประเทศ (1 คน ไม่มีสัญชาติ) รายงานเบื้องต้นดังนี้
1. จีน จำนวน 4,860 คน เป็นชาย 4,764 คน หญิง 96 คน
2. เวียดนาม จำนวน 572 คน เป็นชาย 511 คน หญิง 61 คน
3. อินเดีย จำนวน 526 คน เป็นชาย 498 คน หญิง 28 คน
4. เอธิโอเปีย จำนวน 430 คน เป็นชาย 396 คน หญิง 34 คน
5. อินโดนีเซีย จำนวน 283 คน เป็นชาย 217 คน หญิง 66 คน
6. ฟิลิปปินส์ จำนวน 127 คน เป็นชาย 54 คน หญิง 73 คน
7. มาเลเซีย จำนวน 70 คน เป็นชาย 65 คน หญิง 5 คน
8. ปากีสถาน จำนวน 78 คน เป็นชาย 64 คน หญิง 4 คน
9. เคนยา จำนวน 64 คน เป็นชาย 38 คน หญิง 26 คน
10. ไต้หวัน จำนวน 25 คน เป็นชาย 24 คน หญิง 1 คน
11. เนปาล จำนวน 17 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 2 คน
12. แอฟริกาใต้ จำนวน 17 คน เป็นชาย 13 คน หญิง 4 คน
13. ยูกันดา จำนวน 13 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 8 คน
14. แอฟริกา จำนวน 9 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 3 คน
15. ศรีลังกา จำนวน 8 คน เป็นชายทั้งหมด
16. อุซเบกิสถาน จำนวน 8 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 1 คน
17. ไนจีเรีย จำนวน 7 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 5 คน
18. กานา จำนวน 6 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 1 คน
19. แคเมอรูน จำนวน 6 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน
20. บังคลาเทศ จำนวน 6 คน เป็นชายทั้งหมด
21. นามิเบีย จำนวน 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน
22. รวันดา จำนวน 4 คน เป็นชายทั้งหมด
23. ตูนิเซีย จำนวน 3 คน เป็นชายทั้งหมด
24. เช็ก จำนวน 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน
25. ลาว จำนวน 1 คน เป็นหญิง
26. โรมาเนีย จำนวน 1 คน เป็นชาย
27. แอลจีเรีย จำนวน 1 คน เป็นชาย
28. สิงคโปร์ จำนวน 1 คน เป็นชาย
...
โดยทั้งหมดทางกองกำลัง BGF ได้สอบถามความสมัครใจในการเดินทางกลับประเทศทั้งหมด จึงได้จัดทำรายชื่อส่งผ่านรัฐบาลเมียนมา ประสานรัฐบาลประเทศไทยและทุกประเทศ เพื่อเร่งดำเนินการส่งทุกคนกลับประเทศต้นทางนั้นๆ

สำหรับบรรยากาศ กิจกรรมในเมืองสแกมเมอร์ลดลง เช่น ชเวโก๊กโก่ที่ลดการใช้ไฟฟ้าลง 70-80% ร้านค้าขายสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค ยังคงขายได้เรื่อยๆ แต่ก็ยังพอประคับประคองการค้า อาจเนื่องจากผู้ซื้อลดน้อยลง ถนนสายต่างๆ แต่ละเส้นทาง ก็มีรถยนต์วิ่งน้อยลงถนนโล่ง ส่วนปั๊มน้ำมันบางแห่งปิด-เปิดเป็นเวลา จึงดูเงียบ สำหรับประชาชนยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ แต่ก็ไม่สะดวกเรื่องไฟฟ้าแสงสว่างและการติดต่อสื่อสารกันทางอินเทอร์เน็ต
ต่างกับก่อนหน้านี้ที่เป็น "ไชนาทาวน์" ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ มีอาคารทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและประกอบธุรกิจถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งศูนย์การค้า ร้านค้า โกดังเก็บสินค้า ที่พักอาศัยหรูหรา และรวมถึงบ่อนการพนัน หรือกาสิโน
อย่างไรก็ตาม ชเวก๊กโก่ ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้ประกอบธุรกิจการพนัน หรือกาสิโน เนื่องจากทางการจีนเอาจริงกับการปราบปรามการพนัน ที่ไล่มาตั้งแต่ระลอกแรก ซึ่งกาสิโนจะตั้งในเมืองชายแดนของจีนเอง
...
จนกระทั่งมีกลุ่มทุนมืด (Shadow Capital) หรือทุนจีนสีเทา ได้ฐานที่มั่นแห่งใหม่นั่นคือ เมียนมา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ในเขตอิทธิพลของกะเหรี่ยงกลุ่ม BGF ซึ่งได้รับอนุญาตจากกองทัพเมียนมาให้เจรจาข้อตกลงต่างๆ ได้เอง

นอกจากนั้น โครงการชเวก๊กโก ยังชี้ให้เห็นช่องโหว่ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ทั้งการเคลื่อนย้ายเข้า-ออก ของแรงงานและนักท่องเที่ยว ตลอดจนการโยกย้ายเงินผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง Fintech, เงินคริปโต และ Blockchain ที่สามารถปกปิดเส้นทางการเงินได้
รวมทั้ง เคเค ปาร์ค ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองเมียวดี (ในขณะที่ชเวก๊กโก่ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองเมียวดี) ตรงข้ามกับ 5 เขตอำเภอชายแดน จังหวัดตาก ของประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งรวมของธุรกิจผิดกฎหมายการพนันออนไลน์ การค้ามนุษย์ การค้าประเวณี ยาเสพติด และเป็นแหล่งฟอกเงิน
เพื่อเป็นเหตุตัดไฟแต่ต้นลม ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้ตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการจ่ายน้ำมันใน 5 จุด คือ
1. จุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู รัฐมอญ
2. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน
3. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน
4. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2-เมืองเมียวดี
5. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง-เมืองเมียวดี
...
ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2568 เวลา 09.00 น. เป็นต้นมาจนถึงขณะนี้ ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.