สะพัด กะเหรี่ยง DKBA เลิกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แบกรับภาระกินอยู่ไม่ไหว ด้าน ภูมิธรรม จับมือ หลิวจงอี้ พลเอกอ่องซอ ซอ ย้ำทำงานร่วมกัน ขาดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดงานไม่สำเร็จ ขณะที่ชเวโก๊กโก่ ไฟยังเสถียรดี
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.พ. 68 พื้นที่ของทหารกะเหรี่ยง DKBA หรือกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตยที่ควบคุมพื้นที่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเมย บ้านช่องแคบ ตำบลช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งมีท่าข้ามธรรมชาติอยู่ด้วยกัน 2 ท่า มีเพียงแม่น้ำเมยแคบๆ กั้นแบ่งเป็นเขตแดนเท่านั้น
แหล่งข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า ทางผู้นำกะเหรี่ยง DKBA เตรียมยุติการช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเขตอิทธิพลของตนเอง เนื่องจากช่วยเหลือมาแล้ว ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากทั้งค่ากินและค่าอยู่อาศัยที่ต้องดูแล ที่ผ่านมากะเหรี่ยง DKBA ได้ส่งเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับทางการไทยด้านอำเภอพบพระ มาแล้วจำนวน 260 คน ทำให้ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย
ขณะที่ทางประเทศไทยยังคงแบกภาระดูแลเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติ ที่ มทบ.310 (มณฑลทหารบกที่ 310 ค่ายวชิรปราการ) อำเภอเมืองตากอีกกว่า 200 คน แต่มีสถานทูตมารับไปจำนวน 28 คน เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 68 ซึ่งทางจังหวัดตากโดยศูนย์สั่งการชายแดนจะไม่รับเหยื่อมาไว้ในเขตไทยแล้ว ฉะนั้นต้องให้สถานทูตแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้องมารับไปเอง ยกเว้นบุคคลสัญชาติจีนที่นำมาจากเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา
...
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงกลาโหมไทย, นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และ พล.อ.อ่อง ซอ ซอ รมช.มหาดไทย สหภาพเมียนมาได้จับมือกันอย่างเหนียวแน่น ในการแสดงจุดยืนในการทำงานร่วมกันเตรียมตั้งคณะกรรมการไตรภาคีทำงานร่วมกันในการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ ในระหว่างการรับตัวชาวจีนจำนวน 200 คน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด
โดย นายภูมิธรรม กล่าวกับสื่อมวลชนว่า การส่งกลับคนจีนจากพื้นที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ จะส่งเป็นล็อตสุดท้าย 600 คน แล้วในอาทิตย์หน้าจะตั้งนัดประชุมรวมถึงตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมของไทยเป็นศูนย์ประสานงานทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง
นายภูมิธรรม กล่าวต่ออีกว่า การทำงานของฝ่ายเมียนมา จีน และไทย ได้ทำงานมานานร่วม 2 เดือนแล้ว ในระดับรัฐมนตรี อย่าเข้าใจว่า จีนมีอำนาจสั่งการการต่างๆ ในไทย แต่ทางจีนยินดีให้ตนเองแจ้งให้ทางไทยทราบ และขอโทษประชาชนไทยด้วย ความร่วมมือกันทุกฝ่ายเคารพอธิปไตยซึ่งกันและกัน มีความเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศ และขอยืนยันว่า จะรับชุดนี้เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้จะมีการคุยกันในไตรภาคี เพราะแต่ละฝ่ายยังเห็นต่างบ้าง อยากทำอะไรก็ตกลงกัน ทุกอย่างมีขั้นตอน มีกระบวนการตามกฎหมายทุกอย่าง
