วัยเด็กทุกคนล้วนแล้วแต่มีความฝัน “ในอาชีพที่อยากเป็น และสิ่งที่อยากทำ” เปรียบเหมือนเป้าหมายชีวิตผลักดันให้มีความพยายาม ตั้งใจอดทน เพื่อที่จะสานฝันนั้นให้เป็นจริงเป็นที่ภูมิใจของพ่อแม่

ซึ่งไม่นานมานี้ “ทีมข่าวสกู๊ป” มีโอกาสได้พบกับ “อิงชญา ศรีสุข หรือน้องอิ๋งอิ๋ง อายุ 16 ปี” นักเรียน ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต ที่ไม่เคยละทิ้งฝันในวัยเด็ก “อยากเป็นนักร้องที่โด่งดัง” พยายามฝึกฝนร้องเพลง และเดินสายขึ้นเวทีประกวดมานานหลายปี เพื่อมุ่งมั่นเข้าสู่เส้นทางนักร้องมืออาชีพ และระหว่างแข่งขันมักเป็นตัวเต็งเสมอ

ทำให้บ่อยครั้ง “คว้ารางวัลมาครอง” อย่างล่าสุดได้รับรองชนะเลิศอันดับ 1 วงดนตรีสากล ระดับมัธยม ในรายการ Central Ayutthaya Thai Contemporary music award 2024 แล้วด้วยความสามารถนี้กลายเป็นไอดอลของรุ่นน้องหลายคน “น้องอิ๋งอิ๋ง” เล่าถึงจุดเริ่มต้นการชอบร้องเพลงมาจากพ่อแม่ชอบเปิดเพลงให้ฟังมาตลอด

เช่นนี้เสียงเพลงจึงซึมซับมาตั้งแต่เด็กโดยมี “นุช วิลาวัลย์” นักร้องลูกทุ่งหมอลำเป็นไอดอลเนื่องจากคุณแม่เป็นเพื่อนสนิทสนมไปมาหาสู่กันประจำแล้วความชอบเริ่มชัดเมื่อ ป.4 ที่มักร้องเพลงให้เพื่อนฟังทุกวันจนวันหนึ่ง ครูอภิวิทย์ สมอหอม เห็นแววเลยผลักดันให้เป็นตัวแทน ร.ร.โชคชัยรังสิตไปแข่งประกวดขับร้องเดี่ยวเพลงไทยลูกทุ่ง

...

ชนะเลิศรายการศิลปหัตถกรรมนักเรียนโรงเรียนเอกชนระดับจังหวัด และได้เป็นตัวแทนแข่งระดับภูมิภาค คราวนั้นเลือกเพลง “สาวเพชรบุรี เวอร์ชันคัฑลียา มารศรี เข้าประกวด” แต่ด้วยเป็นรายการใหญ่แล้วไม่มีทักษะพื้นฐานการร้องเพลง เพราะส่วนใหญ่ก็ครูพักลักจำมาจากยูทูบโดยมีครูดนตรีคอยแนะนำกลับมาฝึกเองที่บ้าน

ดังนั้นหลังเลิกเรียน “มักจะใช้เวลาว่างฝึกเรียนร้องเพลง 1-2 ชม.” ทำแบบนี้มา 1 เดือนจนสามารถคว้าเหรียญทองประเภทขับร้องเดี่ยวเพลงไทยลูกทุ่งหญิง รายการศิลปหัตถกรรมนักเรียนโรงเรียนเอกชนระดับชาติ

ครั้งนั้นภูมิใจมาก “เป็นแรงผลักดันให้รักการร้องเพลง” เมื่อจบ ป.6 ก็เลือกเรียน ม.1 ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต เพราะมีชื่อเสียงด้านดนตรี และได้โควตาความสามารถด้านขับร้อง ติด 1 ใน 2 คนจากผู้สมัครร้อยกว่าคน

ปัญหาว่า “สวนกุหลาบฯรังสิตโดดเด่นแนวเพลงสตริง” เป็นอุปสรรคต้องปรับแนวร้องใหม่จากเพลงลูกทุ่งมาเป็นสตริงจำต้องเข้าคอร์ส แกรมมี่ โวเคิล สตูดิโอ และโชคดีที่มีพ่อแม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกชอบแถมสนับสนุนจนตอนนี้เข้ามาเป็น “นักร้องนำ วง MUSIC OF SKR” แล้วก็เป็นตัวแทนโรงเรียนประกวดในหลายรายการ

โดยมีครูวิมล พงษ์เตรียง เป็นผู้ควบคุมการฝึกซ้อมสามารถคว้ารางวัลอยู่บ่อยๆ ในส่วน “เพลงลูกทุ่งลูกกรุง” แนวเพลงที่ถนัดก็ไม่ทิ้งยังคงฝึกฝน “จนเป็นตัวแทนโรงเรียน” ไปคว้ารางวัลเหรียญทองชนะเลิศขับร้องเดี่ยวเพลงไทยลูกกรุงหญิง (ม.ต้น) รายการศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ระดับเขต และเหรียญทองระดับภาค

ทั้งชนะเลิศขับร้องเดี่ยวเพลงไทยลูกกรุงหญิง (ม.ปลาย) รายการศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 71 ระดับภาคสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนจนครูชาลี วัฒนเขจร ผอ.โรงเรียน  เห็นความสามารถนักเรียนก็สนับสนุนในหลายด้าน

ล่าสุดเข้าร่วมแข่งรายการ PIM Music Festival ของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์สามาถคว้ารองชนะเลิศอันดับ 2 เพลงไทยสากล แต่ในระหว่างนั้น “พี่นอ-นรเทพ มาแสง” ซึ่งเป็นกรรมการตัดสินเห็นความสามารถก็ได้ทาบทามมาร่วมโปรเจกต์ในเพลง “อยู่คนเดียวอีกแล้ว” ที่เพิ่งปล่อยซิงเกิลออกไปในยูทูบเมื่อ 23 ธ.ค.2567

ตอกย้ำ “ด้านการเรียน” แม้ชีวิตจะวนเวียนกับการร้องเพลง แต่เรื่องเรียนไม่เคยทิ้งยังให้ความสำคัญอันดับหนึ่ง “เพียงแค่แบ่งเวลาให้เป็น” ส่วนตัวมักตั้งใจเรียนทำความเข้าใจที่ครูสอนให้จบในห้อง เพื่อจะได้มีเวลาฝึกซ้อมร้องเพลงหลังเลิกเรียน 1-2 ชม. แต่พอกลับบ้านต้องรีบอาบน้ำ กินข้าว พักผ่อนสนทนากับพ่อแม่และน้องสาว

...

หลังจากนั้นก็จะรีบขึ้นบ้านอ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือทำงานตกค้างเตรียมส่งอาจารย์ในวันถัดไปก่อนจะเข้านอน แล้วในส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็เรียนพิเศษในวิชาหลัก เช่น คณิตศาสตร์ อังกฤษ สำหรับในช่วงบ่ายก็จะต้องเข้าคอร์สเรียนเพลงเช่นเดิม ทำให้ปัจจุบันผลการเรียนค่อนข้างดี เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.4 ของทุกเทอม

ถ้าหากว่า “ปิดเทอม” ในช่วงว่างจากภารกิจมักจะนัดกับเพื่อนๆ “สมาชิกวง MUSIC OF SKR” จัดกิจกรรมเล่นดนตรีเปิดหมวกจิตอาสาตามตลาดนัด เพื่อหาเงินช่วยเหลือสมทบทุน และสนับสนุนองค์กรสถานสงเคราะห์ที่ขาดแคลน หรือบางครั้งงานกาชาดจังหวัดจะประสานผ่านทางโรงเรียนให้ช่วยไปขึ้นเวทีร้องเพลงก็มี

ในทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเล่นดนตรีเปิดหมวก “รู้สึกภาคภูมิใจมาก” เพราะด้วยความที่พวกเราเป็นเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ แต่ใช้ความสามารถความถนัดสร้างประโยชน์ให้สังคมได้ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเวลาเห็นรอยยิ้มของหน่วยงานที่เราเข้าไปช่วยเหลือ ยิ่งทำให้รู้สึกมีความสุข และปลาบปลื้มใจอย่างมาก

“สิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ไม่ว่าจะฝึกร้องเพลง ประกวดร้องเพลง หรือเรียนหนังสือหนักกว่าคนอื่นล้วนแล้วแต่เป็นความฝันที่ชื่นชอบอยากเป็นนักร้องมีชื่อเสียงมาตั้งแต่เด็กๆ อันเป็นแรงผลักดันให้เวลาได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักมักมีความสุขเสมอ ทำให้เราไม่รู้สึกท้อแท้แม้ไม่มีเวลาที่จะได้ออกไปเที่ยวเล่นเหมือนเพื่อนคนอื่นก็ตาม” น้องอิ๋งอิ๋งว่า

...

ทว่าในส่วน “รายได้” บางครั้งที่ถูกเชิญให้ไปร้องเพลงเนื่องในงานสำคัญต่างๆ “มักจะมีผู้ชอบให้ทิปเป็นขวัญกำลังใจอยู่บ่อย” ในบางครั้งรายการโทรทัศน์เชิญก็จะได้ค่าการเดินทางบ้าง แล้วเงินจำนวนที่ได้นี้จะเก็บเป็นทุนการศึกษาใช้จ่ายเรียนพิเศษต่างๆ ถ้าหากมีวันสำคัญก็ใช้ซื้อของขวัญให้พ่อแม่ ปู่ย่า หรือน้องสาว

ด้วยฝันอยากเป็น “นักร้องมีชื่อเสียงนั้น” นอกจากใจรักแล้วก็เพื่อเป็นที่ภูมิใจของพ่อแม่ และต้องการมีชีวิตที่ดีมั่นคงในอนาคต “ไม่อยากให้ครอบครัวลำบาก” เพราะที่ผ่านมาเคยเห็นพ่อแม่ทำงานหนักจนบางวันแทบไม่ได้คุยกันก็มี ดังนั้นอยากเป็นนักร้องมืออาชีพ เพื่อมีรายได้เลี้ยงดูพวกท่านไม่ให้ต้องลำบากอีก

...

สุดท้ายฝากไว้สำหรับน้องๆ “อยากร้องเพลง” เรื่องนี้คงต้องเริ่มต้นจาก “ความชื่นชอบจริงๆ” แล้วลงมือทำเลยจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลังว่าเราไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบนั้น “โดยต้องมีคุณพ่อ คุณแม่ให้การสนับสนุน” สิ่งสำคัญเรื่องเรียนต้องอย่าทิ้งเพียงแต่รู้จักแบ่งเวลาให้ดีเท่านั้นก็จะประสบความสำเร็จในหลายๆด้านได้

นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างจาก “อิงชญา ศรีสุข วัย 16 ปี” ที่มุ่งมั่นพิชิตฝันของวัยเด็กที่อยากเป็นนักร้องมีชื่อเสียงโด่งดัง กลายเป็นแรงผลักดันในความตั้งใจ และอดทนฝึกฝนจนสามารถเดินทางสานฝันมาถึงครึ่งทางแล้ว ส่วนอีกครึ่งทางคงต้องหวังพึ่งผู้ใหญ่ใจดีมาช่วยดันให้ฝันนั้นเป็นจริง...

คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม