คืบหน้าตำรวจรวบแล้ว 2 โจ๋ไล่ทำร้ายคู่อริเข้าไปในบ้านทำให้ยายวัย 80 ปี ผวาตกใจ ด้านเด็กวัย 18 ขอขมาไม่ได้ตั้งใจเข้าไปก่อเหตุ ขณะที่คุณยายขอบคุณตำรวจทำงานว่องไว ให้อภัยเด็ก

จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2568 เวลาประมาณ 08.35 น. มีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทไล่ทำร้ายกันแล้ววิ่งเข้าไปหลบที่บ้านพักซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น อยู่ในซอยอยู่ดีกินอร่อยสุดซอย ระยะทางประมาณ 100 เมตร ซึ่งในขณะนั้นมี นางจรี สุวรรณา อายุ 82 ปี อยู่ในบ้านขณะซักผ้าอยู่ ถึงกับตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบ้านที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ทางผู้แจ้งจึงได้นำคลิปกล้องวงจรปิดมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ มาดำเนินการตามกฎหมาย ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 ม.ค. 2568 พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ พร้อมด้วยชุดสืบสวน ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธมีดและอาวุธปืนไล่ทำร้ายคู่อริ วิ่งหนีเข้าไปในบ้านชาวบ้านที่มีคุณย่าสูงอายุ อยู่ภายในบ้านทำให้ตกใจ แต่โชคดีเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่รุนแรงเลยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ก่อเหตุมีจำนวน 2 คน คนที่ 1 นายสมาร์ท อายุ 18 ปี (ใช้อาวุธปืน) จับกุมตัวได้ที่บ้านพักซอยวัดบางหญ้าแพรก

...

ส่วนคนที่ 2 นายกี อายุ 18 ปี ใช้อาวุธมีดก่อเหตุ จับกุมตัวได้ซอยสุขสวัสดิ์ 66 แถวถนนสุขสวัสดิ์ พร้อมด้วยของกลาง 1. อาวุธมีดดาบหัวตัด ยาวประมาณ 34 นิ้ว 2. อาวุธมีดปลายแหลมยาว 13 นิ้ว 3. รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน 4. เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุพร้อมหมวกกันน็อค 2 ใบ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุอ้างว่า เป็นปืนบีบีกันที่อัดด้วยแก๊ส ได้ทำการโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้นำตัวคู่กรณีที่ถูกไล่ทำร้ายจำนวน 3 คน มาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.สำโรงใต้ โดยมีนายโดม อายุ 17 ปี 2. นายภัทร อายุ 16 ปี 3. เปรม อายุ 15

กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่มได้ขับรถจักรยานยนต์กันมา และสวนทางกันบริเวณแยกสเต็กไดมอนด์ ต.บางหัวเสือ แล้วได้ขับรถไล่ทำร้ายกัน จนไปถึงบ้านคุณย่าที่จุดเกิดเหตุ กลุ่มมี 2 คนที่ก่อเหตุมีอาวุธปืน เป็นกลุ่มของวิทยาลัยเทคโนโลยีฯ และกลุ่มที่มี 3 คน คือสถาบันอาชีวศึกษาฯ

ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา คู่กรณีทั้งสองฝ่ายรวมทั้งหมด 5 คน ในข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในเมืองชุมชนที่สถานะโดยไม่มีเหตุอันควร แล้วจากนั้นทางตำรวจจะสอบปากคำเพิ่มเติม หากพบข้อกระทำความผิดใด จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้วัยรุ่นทั้งสองฝ่าย พบปะพูดคุยปรับความเข้าใจกัน แล้วจากนั้นจึงนำตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่ม ไปขอขมาผู้เสียหายที่บ้านที่เกิดเหตุของ นางจรี สุวรรณา ที่ทำให้ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายสมาร์ท อายุ 18 ปี มือปืนที่ก่อเหตุเล่าว่า ตนเองขับรถจักรยานยนต์มาเจอคู่กรณีซึ่งมาด้วยกันสามคน โดยที่คู่กรณีทำท่าจะเล่นตนเองก่อน จากนั้นตนเองจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ตามไปบ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยรู้จักคู่กรณี หรือเคยเห็นมาก่อน ซึ่งตนเองก็รับรู้ว่าคุณป้าเค้าตกใจ และอยากจะขอโทษคุณป้าที่ทำให้ตกใจ ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเข้าไปก่อเหตุ เนื่องจากมันเป็นบ้านของเขาตนเองฝากขอโทษคุณป้าจากใจ ที่ทำให้ตกใจในวันเกิดเหตุ

นายเปรม อายุ 15 ปี คู่กรณีที่ถูกทำไล่ทำร้าย เล่าว่า ตนเองไปรับเพื่อนภายในซอยวัดบางด้วน และหลังจากนั้นได้มาที่ซอยวัดสวนส้ม เพื่อมุ่งหน้าไปบางหญ้าแพรก จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์สวนกับคู่อริ จากนั้นคู่อริได้มองหน้า และขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามทำให้พวกตนต้องหนีและไปเข้าซอยตัน เพื่อนอีกสองคนจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านคนอื่น

ส่วนตนเองยืนรอเพื่อเจรจา แต่คู่อริได้ถือมีด และอาวุธปืนมามุ่งหาตนเอง ตนเองจึงรีบวิ่งหนีเข้าบ้านตามเพื่อนดังคลิปภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิดซึ่งตนเอง และคู่กรณีไม่เคยเห็นหรือรู้จักกันมาก่อน ส่วนสาเหตุที่มีเรื่องกันในครั้งนี้ ตนเองคาดว่าน่าจะมาจากการมองหน้าและเขม่นกันโดยไม่ได้มีการด่าทอกันมาก่อน มีแค่ตอนที่อยู่หน้าบ้านหลังในภาพคลิปกล้องวงจรปิดที่ปรากฏ ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองไปรับเพื่อนที่ซอยวัดบางด้วง เตรียมที่จะไปสอบ แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน

ด้านนางดาริน อายุ 40 ปี มารดาของนายสมาร์ท ผู้ก่อเหตุ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายของตนเองไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง ตนเองเห็นจากคลิปหลังจากเลิกงานจึงรอลูกชายของตนเอง ลูกชายของตนเองจึงยอมเล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังไปโรงเรียนได้ขับรถจักรยานยนต์สวนกลับคู่กรณี ซึ่งคู่กรณีเรียนสถาบันช่างกลเหมือนกัน โดยที่ลูกของตนเองเรียนฝั่งพระประแดง โดยฝั่งลูกของตนเองได้มา 2 คน ส่วนคู่กรณีของลูกชายได้มา 3 คน จากคลิปที่ตนเองได้เห็นพบว่า ลูกชายได้ถืออาวุธปืน จากนั้นจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามกัน ลูกชายของตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนที่สถาบันช่างกลทุกวัน โดยพกอาวุธติดตัวตลอด เนื่องจากลูกชายอ้างว่า เรียนสถาบันช่างกล ก็ต้องพกอาวุธติดตัวไว้ เพื่อป้องกันตัว มันเป็นพฤติกรรมของลูกชาย ซึ่งการแต่งตัวมันดูออก ลูกชายอ้างตนเอง ผู้เป็นแม่ก็คอยตักเตือนลูกชายทุกอย่าง ซึ่งหากเขาไม่พกอาวุธติดตัวออกจากบ้านไป ก็จะไปยืมที่บ้านเพื่อน

...

หลังจากตนเองได้ดูคลิปภาพก็รู้สึกตกใจ ที่ได้ยินเสียงคุณยายร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว ซึ่งตนเองก็อยากจะขอโทษผู้เสียหาย หลังจากจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนเองก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนลูก และขอโทษผู้เสียหายที่ทำให้หวาดกลัวผ่านสื่อ ซึ่งตนเองก็เครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นอนไม่หลับทั้งคืนและคิดว่าวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมาเชิญตัวแน่ๆ ตนเองมีลูกชายทั้งหมดสามคน โดยผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายคนโต ส่วนอีกสองคนยังเล็กอยู่ ตนเองก็อยากฝากถึงเยาวชนที่กำลังอยู่ในวัยคะนอง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขัน และเข้มงวดกว่านี้

ส่วนนางจรี สุวรรณา อายุ 82 ปี คุณยายผู้เผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด ว่าจะมีวัยรุ่นไล่ทำร้ายกันแล้ววิ่งเข้ามาในบ้านตัวเอง ได้กล่าวความรู้สึกหลังที่ตำรวจสามารถรวบตัววัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ยกก๊วนว่า รู้สึกโล่งใจที่ตำรวจสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานได้อย่างว่องไว สำหรับตนไม่ได้ถือโทษเด็กๆ ได้ให้อภัยทุกสิ่งที่เขาทำ เพราะสงสารเขา และไม่อยากให้ไปทำแบบนี้ที่ไหนกันอีก เพราะจะเสียอนาคตได้.

...