ประเทศไทยเปิดศักราชใหม่ด้วยฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน หรืออยู่ในระดับ“สีส้ม” ที่ “เป็นอันตรายต่อสุขภาพ” กระจายทั่วประเทศ ส่งผลเสียต่อสุขภาพประชาชนมาก
เพราะจะคัดจมูก แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ระคายเคืองตา ผิวหนังเป็นตุ่ม ผื่นแดง ทำลายระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง ระบบหัวใจและหลอดเลือด ฯลฯ
และปริมาณฝุ่น PM 2.5 จะยังคงปกคลุมประเทศไทยต่อเนื่องอีกหลายเดือน เพราะมวลอากาศเย็นที่แผ่เข้ามา ทำให้อากาศนิ่งและจมตัว ฝุ่นละอองไม่สามารถระบายออกจากพื้นที่ต่างๆได้
ประกอบกับเดือน ต.ค.ไปจนถึงราวๆเดือน มี.ค.เป็นฤดูเก็บเกี่ยวของไทย จึงเกิด “จุดความร้อน” หรือ Hot Spot จากการเผาในแหล่งปลูกพืชเกษตรทั่วประเทศ
อย่างเมื่อวันที่ 6 ม.ค.67 ข้อมูลจาก GISDA ระบุว่า ประเทศไทยมีจุดความร้อน 490 จุด เป็นนาข้าว 171 จุด, พื้นที่ป่า 110 จุด, พืชเกษตรอื่น 73 จุด, อ้อย 44 จุด, ข้าวโพด 20 จุด และอื่นๆ 72 จุด เช่น ลพบุรี 48 จุด, ชัยภูมิ 35 จุด, กาฬสินธุ์ 31 จุด, นครสวรรค์ 30 จุด, สระบุรี 25 จุด, เพชรบูรณ์ 18 จุด ฯลฯ
แม้ก่อนวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ “สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย” หรือ สอน. ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 23 ธ.ค.67 แจ้งให้โรงงานน้ำตาล 58 แห่ง หยุดรับอ้อยเข้าหีบฤดูการผลิตปี 67/68 วันที่ 27 ธ.ค.67-2 ม.ค.68 เพื่อสร้างอากาศสะอาด และลดปริมาณการจราจรช่วงปีใหม่
นอกจากนี้ ในฤดูกาลผลิตนี้ยังกำหนดให้โรงงานน้ำตาลต้องหีบอ้อยสดไม่ต่ำกว่า 75% และรับอ้อยเผาไฟได้ไม่เกิน 25% ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี
แต่ สนอ.กลับได้รับรายงานว่า พบการลักลอบเผาอ้อยหลายพื้นที่ จึงสั่งการให้ทุกโรงงานรับเฉพาะอ้อยสด และชะลอ ระงับ ยับยั้ง รวมถึงยุติเผาไร่อ้อย พร้อมยุติรับอ้อยเผาไฟเข้าหีบ ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 12 ม.ค. เวลา 23.59 น. เพื่อเป็นของขวัญวันเด็ก
...
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด “นายใบน้อย สุวรรณชาตรี” เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ได้รับรายงานพบโรงงาน 6 แห่งเมินร่วมมือ เพราะพบการรับซื้ออ้อยเผาไฟเข้าหีบเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี อุดรธานี กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู สกลนคร และขอนแก่น
ที่น่าตกใจ!! โรงน้ำตาลทั่วประเทศรับซื้ออ้อยถูกเผาแล้วกว่า 4 ล้านตัน จากที่รับเข้าหีบทั้งหมดกว่า 18 ล้านตัน เทียบเท่าการเผาป่ากว่า 400,000 ไร่ ปล่อย PM 2.5 สูงถึง 1,000 ตัน
ในขณะที่ทางการพยายามแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากการเผาที่เป็นอันตรายต่อคนไทยทั้งประเทศ อีกทั้งการเผายังทำลายสิ่งแวดล้อม เพิ่มการเกิดภาวะ “โลกเดือด” แต่กลุ่มเกษตรกร ที่ไม่มีทางเลือกในการเก็บเกี่ยว เพราะต้นทุนต่างๆสูงขึ้นมาก ทั้งค่ารถไถ รถเกี่ยว ค่าน้ำมัน ค่าแรง ก็ยากที่จะร่วมมือ
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องหาทางออกให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อคืนอากาศสะอาด และสุขภาพที่ดีให้กับคนไทย อย่าเห็นแก่ตัวกันอีกเลย!!
ฟันนี่เอส
คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม