ตุ๋นเปื่อยแรงงานไทย 250 ชีวิต ฝันสลายถูกปล่อยลอยแพสนามบินสุวรรณภูมิ สูญเงินรวมกว่า 12 ล้านบาท นายหน้าโบ้ยตัวเองก็เป็นเหยื่อถูกหลอก ซัดทอดตัวการสาวแสบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตออสเตรเลีย ชักชวนให้หาคนไปทำงานการเกษตรที่แดนจิงโจ้ ให้ค่าตอบแทนหัวละ 2,000 บาท ส่วนคนจะไปทำงานเสียค่าใช้จ่ายคนละ 3 หมื่นถึง 1.5 แสนบาท แล้วแต่ระยะเวลา ขายฝันรายได้ดีเดือนละกว่า 7 หมื่นบาท ทำให้มีคนหลงเชื่อจำนวนมาก หลังโอนเงินส่งเอกสารเรียบร้อยนัดวันเดินทาง พากันเหมารถมาถึงสนามบินกลับไม่มีรายชื่อจองตั๋วเที่ยวบิน เตรียมเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบฯ ดำเนินคดี กกจ.แจงออสเตรเลียยังไม่มีนโยบายว่าจ้างแรงงานนอกกลุ่มประเทศเครือข่าย
สาวแสบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตหลอกตุ๋น แรงงานไทยปล่อยลอยแพสนามบินเชิดเงินไปกว่า 12 ล้านบาท เปิดเผยที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 21.00น.วันที่ 4 ม.ค. มีกลุ่มแรงงานไทยทั้งชายหญิงประมาณ 50 คน เป็นตัวแทนจาก 250 คน หอบกระเป๋าเดินทางรวมตัวกันมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจ หลังจากผู้เสียหายทั้งหมดได้โอนเงินให้กับนายหน้าหญิงสาวคนหนึ่งที่มาติดต่อชักชวนให้ไปทำงานการเกษตรและอุตสาหกรรมในประเทศออสเตรเลีย เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่คนละ 3 หมื่นบาทถึง 1.5 แสนบาท แล้วแต่ระยะเวลาการทำงาน กำหนดเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 22.00 น. คืนวันนี้ แต่เมื่อผู้เสียหายไปเช็กตั๋วเดินทางกลับไม่พบข้อมูลการจองเที่ยวบินเพื่อเดินทางแต่อย่างใด จึงพากันมาแจ้งความ มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำ
สอบถามนางสลิลทิพย์ วิเชียรเลิศ ชาว จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ลูกชายได้รับการติดต่อจากคนรู้จักบอกกันปากต่อปากชักชวนให้ไปทำงานด้านการเกษตร มีรายได้ดี ตนตอบตกลงและโอนเงิน 60,000 บาท ให้กับ น.ส.ออยที่อ้างเป็นตัวแทนจัดหา คนงานไปทำงาน นัดบินคืนนี้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่พอมาถึงไม่พบว่ามีการจองตั๋วเครื่องบินแต่อย่างใด สอบถาม น.ส.ออย กลับได้รับคำตอบว่าติดต่อคนที่รับงานและรับเงินไปไม่ได้ มีผู้เสียหายทั้งหมดประมาณ 250 คน ยอดเงินรวมกว่า 12 ล้านบาท
...
เช่นเดียวกับนายธนายุทธ วันเพชร อายุ 36 ปี ชาว จ.สกลนคร ผู้เสียหายอีกคนเล่าว่า โอนเงินไป 120,000 บาท และเหมารถเดินทางมาจากสกลนคร ยืนยันว่าได้รับการชักชวนและโอนเงินผ่าน น.ส.ออย บอกว่าหากไปทำงานจะได้รับเงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 70,000 บาท จะต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมกว่า 200,000 บาท ต้องจ่ายก่อน 120,000 บาท ที่เหลือจะไปหักจากเงินเดือน ที่หลงเชื่อเพราะมีการบอกกันปากต่อปากว่าสามารถพาไปทำงานได้จริง มีคนเคยไปแล้วหลายคน แต่กลับถูกปล่อยลอยแพที่สนามบิน ตนมารอตั้งแต่เช้าจนใกล้ถึงเวลากลับไม่มีตั๋วเครื่องบินแต่อย่างใด
ด้าน น.ส.ออย (นามสมมติ) อายุ 28 ปี นายหน้าที่ชักชวนและรับโอนเงินจากกลุ่มผู้เสียหายก็เดินทางมาขอลงบันทึกประจำวันไว้ด้วย อ้างว่าตัวเองก็ตกเป็นผู้เสียหาย น.ส.ออยเผยว่า คนที่หลอกลวงเอาเงินไปทั้งหมดคือ น.ส.ฟ้า เป็นรุ่นพี่ที่เคยทำงานด้วยกัน อ้างตัวว่าทำงานอยู่สถานทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย มาชักชวนตนให้เป็นนายหน้าจัดหาแรงงานไปทำการเกษตรที่ประเทศออสเตรเลีย จะได้ค่าตอบแทนหัวละ 2,000 บาท ส่วนใครที่จะไปทำงานจะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางตั้งแต่ 30,000-60,000 บาท หรือ 100,000-150,000 บาท แล้วแต่ระยะเวลาที่จะอยู่ทำงานที่นั่น
สาวนายหน้าแรงงานเผยต่อไปว่า จากนั้นไปชักชวนญาติพี่น้องหาคนไปทำงาน โดยโอนค่าใช้จ่ายผ่านตน พอมีเงินเข้ามาจะเบิกเป็นเช็คพร้อมนำเอกสารต่างๆของแรงงานแต่ละคนไปมอบให้ น.ส.ฟ้า ที่มารอรับบริเวณหน้าสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศ ไทย รวมผู้เสียหายทั้งหมดประมาณ 250 คน ยอดเงินกว่า 12 ล้านบาท หลังจากส่งมอบเงินและเอกสารของผู้เสียหายทั้งหมดแล้ว น.ส.ฟ้าบอกว่าจะจัดการการเดินทางทั้งหมดให้ มีกำหนดเดินทางคืนนี้ ให้ผู้เสียหายนำพาสปอร์ตมาแสดงที่เคาน์เตอร์ของสายการบินเท่านั้น แต่พอมาถึงกลับไม่มีรายชื่อจองตั๋วเที่ยวบินแต่อย่างใด โทร.ไปหา น.ส.ฟ้าก็ติดต่อไม่ได้ ตัดสินใจพาผู้เสียหายทั้งหมดมาพบตำรวจ
หลังทราบข้อมูล ร.ต.อ.ชนธัญ พรหมรักษา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แนะนำกลุ่มผู้เสียหายเบื้องต้นจะต้องแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่มีการโอนเงิน แต่เนื่องด้วยผู้เสียหายมีจำนวนมากและมูลค่าความเสียหายเยอะ จึงแนะนำให้กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับ การปราบปราม เพื่อสะดวกในการทำสำนวนคดี ผู้เสียหายทั้งหมดนัดรวมตัวจะเข้าไปแจ้งความที่ บก.ป.ในวันที่ 6 ม.ค.เวลา 10.00 น.
ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า ได้ส่ง ผอ.กองทะเบียนเข้าไปตรวจสอบประสานกับ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เบื้องต้นทราบว่า คนที่มาชักชวนแรงงานเป็นหนึ่งในคนที่พาแรงงานเหล่านี้ไปแจ้งความด้วย ต้องมีการตรวจสอบในเชิงลึกต่อไปว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงหรือไม่ สำหรับแรงงานที่ถูกหลอกลวงจะพาไปทำงานในออสเตรเลีย ไม่ได้เดินทางผ่าน กรมการจัดหางาน จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนที่หลอกลวงและติดตามเงินที่จ่ายไปกลับคืนมาทั้งหมด
อธิบดีกรมการจัดหางานเผยด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลออสเตรเลียมีนโยบายจ้างแรงงานเฉพาะกลุ่มประเทศในเครือของเขาเท่านั้น ยังไม่ให้มีการจ้างคนนอกกลุ่ม การจัดจ้างคนนอกกลุ่มได้จะต้องผ่านมาตรฐานทั้งทางด้านภาษาและหลายๆด้าน ในส่วนนี้กรมการจัดหางานของไทยกำลังดำเนินการประสานกับออสเตรเลียเพื่อเปิดให้มีการใช้แรงงานจากประเทศ ไทย แต่ขณะนี้ยังไม่มีออเดอร์ส่งเข้ามาถึงความต้องการแรงงานจากไทยแต่อย่างใด
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่