นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า พิธีลงนามในสัญญาการจ้างเหมาต่อเรือขุดแบบยุ้งดินขนาดความจุไม่น้อยกว่า 2,500 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 1 ลำ เพื่อทดแทนเรือสันดอน 7 ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด เพื่อขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงคมนาคม ในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ให้กับผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการอย่างยั่งยืน เรือขุดลำใหม่นี้จะช่วยเสริมสร้างสมรรถนะงานขุดลอกบำรุงรักษาร่องน้ำของ กทท. ทั้งร่องน้ำสันดอนเจ้าพระยาที่ท่าเรือกรุงเทพและร่องน้ำที่ท่าเรือแหลมฉบัง ให้มีมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมรองรับการสัญจรของเรือสินค้าได้อย่างสะดวกมีประสิทธิภาพ ซึ่งภารกิจดังกล่าวเป็นการพัฒนาการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของ กทท. ให้มีมาตรฐานสากล อีกทั้งยังเป็นความร่วมมือและสานสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐด้วยกัน เนื่องจากบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด เป็นรัฐวิสาหกิจในความควบคุมของกองทัพเรือ อันเป็นการตอบสนองตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมต่อเรือ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและพัฒนาทักษะแรงงานไทยอีกด้วย
ด้านนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า กทท. ได้จ้างเหมาบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ต่อเรือขุดจำนวน 1 ลำ มูลค่า 2,493 ล้านบาท ทดแทนเรือสันดอน 7 ที่เสื่อมสภาพจากการใช้งานมาแล้วไม่น้อยกว่า 30 ปี ส่งผลให้เรือไม่สามารถออกปฏิบัติงานได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด การดำเนินโครงการจ้างเหมาฯ ครั้งนี้ เพื่อให้คงความพร้อมในการออกปฏิบัติงานของเรือสันดอน สอดรับกับภารกิจและกลยุทธ์ของ กทท. ที่เกี่ยวกับงานด้านขุดลอกบำรุงรักษาร่องน้ำ โดยคุณสมบัติเฉพาะของเรือลำนี้ มีความยาวตลอดลำเรือ 90.0 เมตร ความกว้างสูงสุดของเรือ 16.0 เมตร ระยะกินน้ำลึกตัวเรือ (Full load) 6.0 เมตร ระยะกินน้ำลึกตัวเรือ (Light load) 4.5 เมตร ความจุยุ้งดินไม่น้อยกว่า 2,500 ลูกบาศก์ ความเร็วสูงสุด (Full load) ไม่น้อยกว่า 10.5 นอต ความเร็วสูงสุด (Light load) ไม่น้อยกว่า 11.5 นอต สามารถขุดลอกได้ที่ความลึกสูงสุด 25 เมตร มีหน้าที่ขุดลอกบำรุงรักษาร่องน้ำทางเดินเรือบริเวณท่าเทียบเรือและแอ่งจอดเรือภายในอาณาบริเวณของท่าเรือกรุงเทพรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังเพื่อให้ได้ความลึกตามเกณฑ์มาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์สำรวจที่มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานมีความถูกต้อง แม่นยำ และประหยัดเวลามากขึ้น โดยเรือลำนี้มีระยะเวลาในดำเนินการตามสัญญา 900 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
นาวาเอก ปริศฎางค์ กาศขุนทด กรรมการผู้จัดการ บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า งานต่อเรือไม่ใช่เพียงแค่การสร้างพาหนะทางทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเสริมศักยภาพ ความมั่นคง และความก้าวหน้าของประเทศ บริษัทฯ จะนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์อันยาวนาน รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการดำเนินงานครั้งนี้ เพื่อส่งมอบเรือขุดให้ กทท. อย่างสมบูรณ์แบบและตรงตามมาตรฐานระดับสากล
ทั้งนี้ กทท. ได้ลงนามในสัญญาจ้างต่อเรือขุดแบบยุ้งดินขนาดความจุไม่น้อยกว่า 2,500 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 1 ลำ ทดแทนเรือสันดอน 7 ร่วมกับบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 โดยได้รับเกียรติจากนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานสักขีพยาน โดยมีนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. ร่วมลงนามในสัญญาจ้างกับนาวาเอก ปริศฎางค์ กาศขุนทด กรรมการผู้จัดการ บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด และมีพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เรือโท ภูมิ แสงคำ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ ผู้บริหาร กทท. ผู้บริหารบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารที่ทำการ กทท.