ไต้ก๋งเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 เล่านาทีถูกเรือรบ ทร.เมียนมา ยิงถล่ม กระสุนถากหัว เกือบเอาชีวิตไม่รอด ส่วนก่อนหน้านี้ที่ทางรองนายกฯ ให้ข่าวว่าทหารพม่ายิงปืนขู่เตือน ไม่ได้ต้องการทำร้าย แต่ตนเองมองว่าไม่ใช่เป็นการยิงขู่เตือน เผยบริเวณที่เกิดเหตุเป็นน่านน้ำประเทศไทย
ความคืบหน้าสถานการณ์เรือประมงไทยถูกเรือรบ ทร.เมียนมา ปฏิบัติการโดยใช้อาวุธ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 (ผบ.ทรภ.3) และผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ผอ.ศรชล.ภาค 3) ลงพื้นที่เยี่ยมบำรุงขวัญและให้กำลังใจ นายศรีเพ็ชร บุตรทัศน์ อายุ 44 ปี ไต้ก๋งเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกเรือรบของประเทศเพื่อนบ้านยิง บริเวณทิศตะวันตกของเกาะพยาม จ.ระนอง ขณะทำการประมงพร้อมกับกลุ่มเรือประมงในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ในนามของกองทัพเรือ ทัพเรือภาคที่ 3 ลงพื้นที่เพื่อจะได้มาดูว่าความเป็นจริงของเรือที่ถูกไล่ยิงมีหลักฐานข้อมูลอะไรที่จะประกอบได้เพื่อที่จะได้รวบรวมหลักฐานเหล่านี้ เพื่อที่จะไปส่งให้คณะกรรมการ TBC เพื่อที่จะได้นำเข้ากระบวนการหารือกับคณะกรรมการ TBC ของเมียนมาต่อไป ซึ่งทางกองทัพเรือไปช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บของเรือทหารเรือพม่า โดยได้จัดเรือ ต.274 ออกไปดำเนินการช่วยเหลือเข้ามาส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตอนนี้ใช้คณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นในการเจรจากันเพื่อให้ได้ข้อยุติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามกระบวนการเกี่ยวกับเรือ ลูกเรือที่ถูกจับกุมไปเป็นอย่างไร โดยในเบื้องต้นก็ใช้กลไกชายแดนเป็นหลักก่อน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูลหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนที่จะเข้าไปประชุมคณะกรรมการท้องถิ่นของประเทศพม่าและประเทศไทย
...
อย่างไรก็ตามทางผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้กองเรือภาคที่ 3 ประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องชาวประมงขอให้มีการระมัดระวังให้อยู่ในขอบเขตและอยู่ในพื้นที่เส้นปฏิบัติการของกองทัพเรือ ซึ่งขณะนี้ได้มีการไปประชาสัมพันธ์ผ่านทาง ศรชล.จังหวัด ผ่านทางศูนย์ควบคุมภายในจังหวัดต่างๆ ให้แจ้งเตือนกับพี่น้องชาวประมงทั้งหมดไม่ให้ออกนอกเส้นปฏิบัติการที่กำหนดไว้
ขณะที่ทางด้านนายศรีเพ็ชร บุตรทัด อายุ 47 ปี ไต้ก๋งเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 กล่าวว่า ตนเองได้เข้าไปจับปลาบริเวณจุดเกิดเหตุและได้เก็บอวนขึ้นมากองบนเรือจู่ๆ ก็มีเรือวิ่งเข้ามาทางท้ายเรือขวา ซึ่งลูกชายที่นั่งมาด้วยเห็นว่าเป็นเรือรบของทหารเรือพม่า ตนเองตกใจได้เร่งเครื่องยนต์ขับเรือออกจากจุดเกิดเหตุซึ่งบริเวณหัวเก๋งเรือรอบเรือที่อยู่ด้านบนถูกยิงด้วยอาวุธปืนหนัก ตนเองต้องหมอบให้ต่ำแล้วขับเรือออกอย่างรวดเร็ว พร้อมสั่งให้ลูกน้องที่อยู่บนเรือนอนราบให้หมดเพื่อความปลอดภัย โดยเรือประมงที่อยู่บริเวณนั้นมีประมาณ 20-30 ลำ ต่างพากันขับหนี ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุเป็นน่านน้ำประเทศไทย ซึ่งอยากฝากถึงรัฐบาลให้ช่วยเหลือเรือประมงอีก 1 ลำที่ถูกจับไป
ส่วนก่อนหน้านี้ที่ทางรองนายกรัฐมนตรีให้ข่าวว่าทหารพม่ายิงปืนขู่เตือน ไม่ได้ต้องการทำร้าย แต่ตนเองมองว่าไม่ใช่เป็นการยิงขู่เตือน เพราะลูกกระสุนปืนยิงเข้ามาที่เก๋งเรือและอุปกรณ์เรือได้รับความเสียหายซึ่งรวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เพราะการถูกยิงในครั้งนี้ตนเองเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
ขณะที่ นางปริญกมล ธัญชน ภรรยาไต๋เรือ ส.เจริญชัย 8 ที่ถูกจับเรือพร้อมลูกเรือ จำนวน 31 คนสัญชาติไทย 4 คน สัญชาติเมียนมา 27 คน กล่าวว่า ตอนนี้ตนเองได้ติดต่อทางหน่วยงานราชการของกองทัพเรือ กองเรือภาคที่ 3 ในการประสานขอความช่วยเหลือสามีที่ถูกจับไปพร้อมกับลูกน้องซึ่งสามีตนเองมีโรคประจำตัว ต้องกินยารักษาทั้งโรคเบาหวาน ความดัน ไขมัน ตัวเองก็รู้สึกเป็นห่วงสามีเป็นอย่างมาก อยากจะเดินทางไปเยี่ยมสามี หากเป็นไปได้ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทางกองทัพเรือได้พูดคุยเจรจาให้อยู่ และขณะนี้อยากเจอหน้าสามีและลูกเรือทั้งหมดที่ถูกจับตัวไปเพราะรู้สึกคิดถึงเป็นห่วง