น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับ 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ดำเนินการคัดเลือกอาหารถิ่นประจำจังหวัด ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่นสู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste) ประจำปี 2567 โดยมีเมนูอาหารที่ให้ประชาชนร่วมโหวต 563 รายการ แบ่งเป็น เมนูอาหารคาว 234 รายการ เมนูอาหารหวาน 184 รายการ เมนูอาหารว่าง 143 รายการ และเมนูอาหารอื่น 2 รายการ

รมว.วัฒนธรรมกล่าวว่า สำหรับผลการคัดเลือกแต่ละเมนูมีความพิเศษและสะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของแต่ละจังหวัดอย่างชัดเจน เช่น เมนูอาหารหวานจาก จ.ปราจีนบุรี ได้แก่ ขนมหน่อไม้ ได้รับความสนใจและมีการโหวตสูงสุดถึง 22,945 คะแนน รองลงมา เมนูอาหารหวาน ขนมถังแตกมอญ จาก จ.กาญจนบุรี 4,660 คะแนน และเมนูอาหารคาว ปลายอก ข้าวบอกจาก จ.กระบี่ 4,259 คะแนน นอกจากนี้ ยังมีเมนูที่น่าสนใจมีชื่อแปลกและไม่ค่อยเป็นที่รู้จักทั่วไป อาทิ ขนมเหนียวสูตรโบราณ จากกรุงเทพฯ, กาละแมรวงข้าวเม็ดบัว จ.ปทุมธานี, ยำไก่ผีปู่ย่า จ.สุโขทัย, แกงอีเหี่ยว จ.เพชรบูรณ์, น้ำพริกไปนา จ.สุพรรณบุรี, แกงคั่วหนามพุงดอหมูย่าง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ,ข้าวมัน แกงตอแมะห์ปลา จ.สตูล, น้ำพริกหมู (โคราช) จ.นครราชสีมา, นมเนียล จ.สุรินทร์, ยำย่าหนัด จ.ภูเก็ต, ซามาอาซัมกลูโก จ.ยะลา, แกงส้มใบสันดาน จ.จันทบุรี, ข้าวเม่า บ้านผือ จ.อุดรธานี, ลาบปูนา จ.ร้อยเอ็ด และเต้าคั่ว จ.สงขลา เป็นต้น และสามารถตรวจสอบรายชื่อเมนูอื่นๆที่ได้รับการคัดเลือกได้ที่ www.culture.go.th 

“โครงการนี้จัดเป็นปีที่ 2 โดยรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอาหารไทยและวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกับอาหารถิ่นของไทย พร้อมทั้งต่อยอดภูมิปัญญาด้านสมุนไพรและสรรพคุณทางเลือกที่สืบทอดกันมา โดยโดดเด่นทั้งเอกลักษณ์และรสชาติ มีหลายเมนูที่หลายคนอาจยังไม่เคยลิ้มลอง อีกทั้งส่งเสริมและพัฒนาอาหารถิ่นไทยให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ที่สำคัญ สวธ.จะยกระดับอัตลักษณ์อาหารไทยที่ได้รับการคัดเลือกสู่เมนูอาหารที่สามารถต่อยอดไปสร้างการรับรู้ระดับนานาชาติด้วย ทั้งนี้ สวธ.จะได้นำเมนูอาหารถิ่นทั่วประเทศที่ได้รับการคัดเลือกปีนี้มาสาธิตและให้ลองชิมช่วงเดือน ก.ย.นี้.

...

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่