รศ. ดร.แสงเดือน มูลสม ผู้ประสานงานเครือข่ายมหาวิทยาลัยสุขภาพหนึ่งเดียวแห่งประเทศไทย (THOHUN) และอาจารย์ประจำคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า เครือข่ายได้ทำการสำรวจ หัวข้อ “ความรู้ ความเข้าใจ การเข้าถึงข้อมูล และปัจจัยที่มีผลต่อการรับวัคซีนโควิด-19 ของประชาชนและกลุ่ม 608” ซึ่งทำการสำรวจความคิดเห็นของบุคคลทั่วไปและบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 550 คน พบว่า ประชาชนทั่วไปมีการรับรู้ที่ดีถึงดีมากเกี่ยวกับอาการของโรคโควิด-19 การปฏิบัติตนเมื่อติดเชื้อ และกลุ่มที่มีความเสี่ยง ส่วนใหญ่ยังคงติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับประเด็นเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 1 ใน 3 หรือ ร้อยละ 39 มีความต้องการที่จะเข้ารับวัคซีนหากมีบริการฟรีให้แก่ประชาชน และร้อยละ 14 ที่ต้องการฉีดวัคซีนหากมีค่าใช้จ่าย และส่วนมากเห็นว่า ยังมีความจำเป็นต้องจัดหาวัคซีนให้แก่บุคลากรด่านหน้าและกลุ่มเปราะบาง และร้อยละ 74 เห็นว่า บุคลากรทางการแพทย์ยังควรได้รับวัคซีนร้อยละ 60 มองว่า ผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี และผู้มีโรคประจำตัวควรได้รับวัคซีนเช่นกัน
รศ.ดร.แสงเดือนกล่าวต่อว่า เครือข่ายมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ได้แก่ สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจถึงความสำคัญของวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของวัคซีนในการป้องกันการป่วยหนักและการเสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 จัดหาและสำรองวัคซีนให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเตรียมรับมือหากสถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงขึ้น.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่