เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ตนได้ทำหนังสือในนามสมาคมครูชนบท จังหวัดชัยภูมิ ที่ สค.ชย.038/2567 ลงวันที่ 5 ส.ค. 2567 ส่งถึง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เรียกร้องให้ความช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากร ทางการศึกษาทั่วประเทศในการปรับลดค่าเบี้ยประกันสินเชื่อเงินกู้ในโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งเป็นโครงการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ร่วมกับธนาคารออมสิน ทั้งนี้ เนื่องจากมีการปรับค่าเบี้ยประกันสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะข้าราชการบำนาญได้รับ ความเดือดร้อน บางรายไม่มีเงินจ่ายทำประกันสินเชื่อกับทางธนาคารออมสิน ส่งผลกระทบกับทายาทที่จะได้รับเงินฌาปนกิจ ช.พ.ค. รวมทั้งส่งผลกระทบกับผู้ค้ำประกัน.นายสานิตย์กล่าวต่อว่า ตนได้จัดทำตารางการจัดเก็บเบี้ยประกันสินเชื่อเงินกู้ในโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค. ซึ่งได้รับทราบข้อมูลจากสำนักงาน สกสค.จังหวัด ส่งให้ พล.ต.อ.เพิ่มพูนได้ประกอบการพิจารณา ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการเรียก เก็บเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สวนทางกับจำนวนเงินกู้ที่ลดลงเรื่อยๆ เพราะครูผ่อนชำระมานานนับ 10 ปีแล้ว โดยอัตราเดิมตอนเริ่มโครงการคิดเบี้ยประกัน 620 บาท/100,000บาท/ปี ทุกกลุ่มอายุ ถ้าเงินกู้ 1,000,000 บาท จ่ายเบี้ยประกัน 6,200 บาทต่อปี แต่ปัจจุบันปี 2567 ปรับเบี้ยประกันขึ้นอีก โดยผู้กู้อายุไม่เกิน 65 ปี ต้องจ่าย 1,492 บาท/100,000 บาท/ปี ถ้าเงินกู้คงเหลือ 1,000,000 บาท ต้องจ่าย 14,920 บาท ถ้าผู้กู้อายุ 65-74 ปี ต้องจ่าย 1,940บาท/100,000บาท/ปี ถ้าเงินกู้คงเหลือ 1,000,000 บาท ต้องจ่าย 19,400 บาท จึงขอเรียกร้อง พล.ต.อ.เพิ่มพูนได้จัดหาบริษัทประกันที่คิดราคาถูก เพื่อช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวนหลายแสนคนด้านนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งกำกับดูแลงานของสำนักงาน สกสค. กล่าวว่า เชื่อว่าการที่ สกสค.จะตัดสินใจทำอะไรลงไปก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตามจะสอบถามเรื่องดังกล่าวกับทางเลขาธิการ สกสค.ต่อไป.