วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2567 ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และเป็นวันหยุดแห่งชาติจากการประกาศของรัฐบาล เมื่อ พ.ศ.2562

ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เกิดและเติบโตในแผ่นดินที่ยึดมั่นในชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และยังเชื่ออยู่เสมอว่า ประเทศไทยของเราสามารถอยู่รอดมีความเจริญตามอัตภาพในทุกวันนี้ เพราะเรามีสถาบันหลักทั้ง 3 เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว

ดังนั้น ในวันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสถาบันทั้ง 3 ผมจะไม่เขียนเรื่องอื่นใดนอกจากเขียนถึงความสำคัญของวันดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมและสานต่อเพื่อให้ความเชื่อถือเชื่อมั่นในทั้ง 3 สถาบัน ยั่งยืนสืบไป

จึงขออนุญาตที่จะเขียนถึงพิธีการและกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ในวันนี้เพื่อแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับถือโอกาสกราบเรียนเชิญไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ดังที่เคยปฏิบัติมา

ในส่วนของพระราชพิธีนั้น เราคงทราบแล้วว่าทางสำนักพระราชวังจะจัดขึ้น ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง โดยในเวลา 17.00 น. ของวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงประกอบพระราชพิธีต่างๆ

ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีพี่น้องประชาชนไปเฝ้ารับเสด็จ ณ บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วอย่างเนืองแน่นอยู่เสมอ

มาดูในภารกิจของรัฐบาลบ้าง นอกจากจะดำเนินการให้ส่วนราชการต่างๆ ประดับธงชาติไทย ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ทั้ง 2 พระองค์คู่กันและประดับผ้าแถบสีเหลืองร่วมสีม่วงตามอาคารสถานที่ของทางราชการไปตลอดเดือนมิถุนายนแล้ว ยังได้เชิญชวนไปทางภาคเอกชนโดยเฉพาะบริษัทห้างร้านขนาดใหญ่อีกด้วย

...

รวมทั้งยังได้ประกาศเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนเข้าร่วมในกิจกรรมและพิธีการต่างๆ ที่รัฐบาลจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยในวันนี้เกือบตลอดทั้งวันควบคู่กันไป

เริ่มจากพิธีทำบุญตักบาตรในเช้าวันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน เวลา 07.30 น. ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีและภริยาจะนำคณะรัฐบาลไปร่วมพิธี ณ ท้องสนามหลวง และในภาคค่ำก่อนเวลา 19.19 น. จะมีพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ ท้องสนามหลวง โดยนายกรัฐมนตรีและภริยาและคณะรัฐบาล พร้อมด้วยประชาชนทุกหมู่เหล่าอันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติจากใจของรัฐบาลและประชาชนมาโดยตลอดในทุกรัชกาล

ผมจึงใคร่ขอถือโอกาสเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านไปร่วมงานทั้ง 2 งานนี้ที่ท้องสนามหลวงจะเป็นในภาคเช้าหรือภาคค่ำสุดแต่ความสะดวกของท่านผู้อ่าน

เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความยึดมั่นใน “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” อันเป็นจิตวิญญาณของประชาชนชาวไทยมาแต่อดีตกาล และสมควรอย่างยิ่งที่จะอนุรักษ์ไว้และสืบทอดให้ยืนยาวต่อไปในวันข้างหน้า

ภาพเปลวเทียนนับหมื่นๆดวงที่สว่างไสวกลางท้องสนามหลวงทั้งในวันเฉลิมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังอยู่ในความทรงจำของพี่น้องชาวไทยรุ่นก่อนๆ สืบเนื่องมาจนถึงวันนี้

เป็นแสงเทียนที่ช่วยหล่อหลอมจิตใจของคนไทยในอดีต ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตลอดมา และร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ จนก้าวหน้าในระดับหนึ่งและอยู่เย็นเป็นสุขมากกว่าอีกหลายๆประเทศในโลกนี้

หากเรารวมเทียนจากหัวใจของพวกเราให้เป็นหนึ่งได้อีกครั้ง ปัญหาเศรษฐกิจที่บ่นว่าหนักหนาสาหัสเหลือเกินนั้น...เราก็จะสามารถเอาชนะได้ดังเช่นทุกครั้งที่เราเกิดปัญหาขึ้น

นะครับหากสามารถจะเดินทางไปร่วมงานที่สนามหลวงได้ หรือ ณ ที่ซึ่งหน่วยราชการ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ จัดขึ้นได้ก็ขอได้โปรดออกไปร่วมงานทั้งหลายเหล่านี้อย่างพร้อมเพรียงกัน

แต่หากไม่สามารถไปร่วมได้จะถวายพระพรชัยมงคลอยู่ที่บ้านของเราก็ได้เช่นเดียวกัน

ผมเองก็คงต้องใช้วิธีหลัง เพราะอายุอานามค่อนข้างมากแล้วจะไปจุดเทียนที่ท้องสนามหลวงเหมือนในอดีตคงไม่สามารถกระทำได้

ก็จะจุดเทียนอยู่ในห้องรับแขกเปล่งเสียงถวายพระพรจากใจในเวลา 19.19 น. ค่ำวันนี้พร้อมๆกับท่านนายกฯ และพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ท้องสนามหลวงทุกๆคน...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม