อีกเพียง 2 วันก็จะเปิดภาคเรียนที่ 1/2567 ในวันที่ 16 พ.ค.2567 แน่นอนช่วงเวลาก่อนเปิดภาคเรียนนี้ ผู้ปกครองนักเรียนหลายๆคนคงสาละวนอยู่กับการเตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องเสื้อผ้าชุดนักเรียน รองเท้า ถุงเท้า และอุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลาน ในขณะที่เด็กนักเรียนหลายๆคนก็ตื่นเต้นจะได้เจอหน้าเพื่อนๆ หลังห่างหายกันไปหลายเดือน หรือบางคนกำลังจะได้เจอหน้าเพื่อนใหม่

ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) “บิ๊กอุ้ม” พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และ “ครูเอ” สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งกำกับดูแลสถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ ดูเหมือนจะให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมรับการเปิดเทอมปีนี้เป็นพิเศษ มีการเรียกประชุมด่วนผู้บริหาร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เขตทั่วประเทศ ผู้อำนวยการสถานศึกษา และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ที่โรงเรียนสตรีนนทบุรี พร้อมทั้งถ่ายทอดสดผ่านระบบ Zoom ให้ทุกสถานศึกษาในสังกัดได้รับฟังนโยบาย และนำไปปฏิบัติพร้อมกัน ในช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

...

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ
พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ

“ก่อนเปิดภาคเรียนใหม่นี้ ผมขอความร่วมมือผู้บริหาร สพฐ. สพท. ผู้บริหารสถานศึกษาทุกคน ซึ่งถือเป็นโซ่ข้อกลางที่สำคัญในการเชื่อมต่อนโยบายสู่การปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เกิดคุณภาพทางการศึกษาสู่สถานศึกษา สู่ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีเป้าหมายสำคัญสูงสุด คือ “ตัวผู้เรียน” ภายใต้นโยบาย “เรียนดี มีความสุข” จึงขอให้ทุกคนร่วมกันเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษา 2567 ทั้งในด้านวิชาการ การจัดการเรียนการสอน กิจกรรมการเรียนรู้ รวมถึงด้านความปลอดภัย อาคารสถานที่ อุปกรณ์การเรียนการสอน ฯลฯ เพื่อให้การปฏิบัติงานต่างๆบรรลุผลสำเร็จ นำไปสู่การสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาครอบคลุมทุกด้าน เป็นประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา อันจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน” คำกล่าว บางช่วงบางตอนจาก พล.ต.อ.เพิ่มพูน ที่ได้มอบนโยบายผู้บริหารสังกัด สพฐ.

ขณะที่ นายสุรศักดิ์ เน้นย้ำว่า “สิ่งที่ผมขอฝากเป็นพิเศษ ได้แก่ 1.ความปลอดภัยในสถานศึกษา ความพร้อมของอาคารสถานที่ สภาพห้องเรียน การปรับปรุงซ่อมแซมห้องน้ำโรงเรียน การปรับปรุงภูมิทัศน์ 2.ความปลอดภัยในการเดินทางมาเรียนของนักเรียน 3.สอดส่อง/เฝ้าระวังอันตรายจากบุคคลภายนอก ที่เข้ามาภายในโรงเรียน 4.สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้ปกครอง หน่วยงานภายนอก ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อช่วยสอดส่องทำให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด 5.การใช้สื่อสังคมออนไลน์และไซเบอร์ อย่างสร้างสรรค์ 6.อาหารกลางวันของนักเรียนต้องจัดให้ถูกต้อง เหมาะสม และ 7.การจ้างนักการภารโรง ดูแลสภาพแวดล้อม ระบบสาธารณูปโภค และทรัพย์สิน ราชการ รวมถึงความปลอดภัยครูและนักเรียน”

จากข้อสั่งการของผู้บริหารสูงสุดของ ศธ.สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใย ความพร้อมในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1/2567 นี้ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในด้านความปลอดภัยของสถานศึกษา ได้กำชับเร่งอุดจุดบอดที่เคยเกิดปัญหา และวางมาตรการดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น ห้องน้ำ ทำให้มีการผลักดัน โครงการ “สุขาดี มีความสุข” ในโรงเรียนสังกัด สพฐ.ที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 10-80 คน โดยไม่มีการแบ่งแยกห้องน้ำครูและนักเรียน เพราะเชื่อว่าหากครูใช้ห้องน้ำร่วมกับเด็ก จะแก้ไขปัญหาการรังแกกันหรือบูลลี่ การแอบสูบบุหรี่ หรือสารเสพติดอื่นๆ เพราะครูจะสอดส่องดูแลพฤติกรรมดังกล่าวของเด็กได้

...

และนั่นเป็นหนึ่งในหลายข้อห่วงใยของเสมา 1 ที่ สพฐ.ขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติแบบ “ทำได้ ทำทันที” โดยมีการคลิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามเพื่อให้ข้อสั่งการเรื่องการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1/2567 ของ พล.ต.อ.เพิ่มพูนและ นายสุรศักดิ์ เป็นที่เข้าใจ สถานศึกษานำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องชัดเจน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) จึงมอบหมายให้ นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. ออกหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 04277/1317 เรื่อง มาตรการการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1/2567 ปีการศึกษา 2567 มีสาระสำคัญในหลายๆด้าน อาทิ ด้านความปลอดภัย ให้คำนึงถึงสวัสดิภาพของนักเรียน ตั้งแต่เดินทางออกจากบ้านเข้าสู่รั้วโรงเรียน จนออกจากโรงเรียนเดิน ทางถึงบ้านพักนักเรียน ควบคุมดูแลรถรับจ้างรับ-ส่งนักเรียน ให้เป็นไปตามระเบียบของ ศธ. มีการตรวจสอบ คัดกรองบุคคลภายนอกที่เข้าและออกสถานศึกษา จัดหาและนำกล้องวงจรปิด ให้เพียงพอและครอบคลุม จัดอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อมโรงเรียนให้ปลอดภัย

...

ด้านโภชนาการและสุขภาพ จัดรายการอาหารกลางวันที่มีคุณค่าครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ด้านการป้องกันภัยธรรมชาติ จัดทำแผนเผชิญเหตุและวิธีการให้ความช่วยเหลือนักเรียน มีการป้องกันโรคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 การป้องกันภัยจากยาเสพติด/สารเสพติด การป้องกันความรุนแรงในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา โดยสถานศึกษาต้องปลอดอาวุธทุกชนิด ป้องกันการเล่นพนันออนไลน์ เป็นต้น

...

“ทีมการศึกษา” มองว่าการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1/2567 ในครั้งนี้ ถือว่ามีความคึกคัก และได้รับความใส่ใจจากเจ้ากระทรวงที่คอยติดตามนโยบายอย่างใกล้ชิด คอยเกาะติดจุดบอดต่างๆเพื่อให้ได้รับการแก้ไข ในขณะที่หน่วยปฏิบัติอย่างผู้บริหาร สพฐ.ก็ขานรับนโยบายนำไปขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นการทำงานที่เข้าขากันระหว่างฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำ ตามนโยบาย “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” ของ “บิ๊กอุ้ม”

แต่สิ่งสำคัญที่เราขอฝากไว้ก็คือ นโยบายต่างๆ ของเจ้ากระทรวงศึกษาฯที่ออกมานี้ แม้จะดีขนาดไหน แต่หากผู้ปฏิบัติที่อยู่ในพื้นที่ไม่ขยับขับเคลื่อนและนำไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมก็คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

เพราะนโยบายที่สวยหรูก็คงเป็นแค่ ลมปากและไร้ค่า...!!!

ทีมการศึกษา

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่