จากรายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่ง ประจำปี พ.ศ.2564 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า ชายฝั่งทะเลของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ครอบคลุม 25 ตำบล 8 อำเภอ โดยมีความยาวชายฝั่งทะเล 246.83 กม. มีการกัดเซาะชายฝั่งปี พ.ศ. 2564 (ข้อมูลปี พ.ศ.2563) เพิ่มขึ้น จากปีที่ผ่านมา
สาเหตุของการกัดเซาะชายฝั่ง ประกอบด้วย การทำลายแนวป้องกันการกัดเซาะตาม การกัดเซาะเนื่องจากการเลี้ยวเบนของกระแสน้ำเมื่อสิ้นสุดแนวโครงสร้างทางวิศวกรรม และการกัดเซาะเนื่องจากสาเหตุอื่นๆ
ด้วยเหตุนี้ สวทช.หนุนสร้างเครือข่ายภาคประชาชนแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพร้อมเปิดตัวนวัตกรรมไม้โกงกางเทียมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นางรังสิมา ตัณฑเลขา ผอ.โปรแกรมอาวุโส สวทช. นำคณะนักวิจัยร่วมหารือ “การให้ความรู้และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการกัดเซาะชายฝั่งและสร้างเครือข่ายภาคประชาชน” มีนายบัญชา เสือเหลือง นายก อบต. เปิดประชุมและนำชาวบ้าน อ.สามร้อยยอด และผู้สนใจร่วมกิจกรรมจำนวน 170 คน ที่ อบต.เขาแดง อ.สามร้อยยอด
ในการนี้ทาง สวทช.ยังมีการเปิดนวัตกรรม “ไม้โกงกางเทียม” ช่วยป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นางรังสิมาเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ชายหาดต่างๆของจังหวัด จึงต้องหารือกับภาคประชาชนให้ความรู้ถึงวิธีการและแนวทางในการป้องกันการกัดเซาะชายหาดที่มีอยู่หลายมาตรการหลายระดับ
และที่สำคัญประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง หากมีการรวมกลุ่มกันเพื่อสร้างเครือข่ายภาคประชาชนให้มีความเข้มแข็ง มีความรู้ ความเข้าใจ ถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่เหมาะสมกับพื้นที่และภาคประชาชนควรมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
...
นอกจากนี้ทาง สวทช. ลงพื้นที่หาดหัวโขน อ.สามร้อยยอด เพื่อสำรวจสภาพชายหาดและทำการเก็บข้อมูลหลัง สวทช.ทดสอบติดตั้งนวัตกรรมไม้โกงกางเทียม ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและรากไม้เทียม เพื่อเร่งการตกตะกอน หรือซีออส เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
นวัตกรรมดังกล่าว ทาง สวทช.มีส่วนในการออกแบบ-ทำการวิจัยร่วมกับหลายหน่วยงาน อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.เกษตรศาสตร์ กรมเจ้าท่า เป็นต้น ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญในการแก้ไขและป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายหาดและที่สำคัญคือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย.
อรรถชัย นิธิสีลตานันท์/ รายงาน
คลิกอ่านคอลัมน์ "มองทั่วทิศเมืองไทย" เพิ่มเติม