เรื่องราวพริตตี้สาวร้องทุกข์ “เพจสายไหมต้องรอด” และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ขอความช่วยเหลือหลังถูกแก๊งคนจีนวางแผนจัดหาหนุ่มชาวจีนมาคบหาเตรียมงานแต่งงานและตั้งครรภ์ ผลตรวจอัลตราซาวด์พบว่าได้บุตรสาว ฝ่ายชายบินหนีกลับประเทศจีน

เชื่อว่าเป็นแก๊งล่าลูกชาย

ผู้เสียหายเล่าว่า แม่สื่อชาวจีนติดต่อให้เจอหนุ่มชาวจีนอ้างเป็นนักธุรกิจเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเดือน มิ.ย. ก่อนวางแผนแต่งงานกันเดือน ก.ย. ฝ่ายชายขอเลื่อนไปแต่งงานเดือน ต.ค. อ้างขอรู้เพศลูก

แต่พอผลตรวจลูกเป็นผู้หญิง อดีตสามีขาดการติดต่อ แม่สื่อจีนย้ายไปอยู่ที่คอนโดฯแห่งอื่น

พบข้อมูลว่าแม่สื่อจีนเคยเสนอชายจีนให้หญิงไทย 2 รายอยู่ในคอนโดฯอ้างว่าจะได้มีครอบครัวได้แต่งงาน ขอ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเอาผิดผู้ร่วมขบวนการป้องกันไม่ให้ผู้หญิงไทยตกเป็นเหยื่อ

“เพจสายไหมต้องรอด” ตรวจสอบพบข้อมูลว่าปัจจุบันคนจีนบางกลุ่มมีแนวคิดล่าลูกชาย เนื่องจากผู้หญิงจีนเริ่มแต่งงานยากขึ้น จึงมองหาผู้หญิงในแถบทวีปเอเชีย หญิงไทยและหญิงลาว เมื่อคนกลุ่มนี้มาถึงประเทศไทยหาหญิงชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยนานเป็น “แม่สื่อ” ให้ อ้างว่ามีญาติหรือนักธุรกิจชาวจีนที่รู้จักอยากมีครอบครัว อยากแต่งงานกับหญิงไทย

แม่สื่อชาวจีนประสานให้พูดคุยกันผ่านทางแอปพลิเคชันวีแชต วิดีโอคอลพูดคุยกันมาต่อเนื่องจนนัดพบและเที่ยวกันในประเทศไทย พูดคุยกันเรื่องการแต่งงาน พอผู้หญิงไทยตั้งครรภ์เข้าใกล้วันแต่งงานแม่สื่อจีนและฝ่ายชายรบเร้าให้แพทย์อัลตราซาวด์เพศ หากผลตรวจลูกออกมาเป็นเพศหญิง ฝ่ายชายขาดการติดต่อ

ปล่อยทิ้งผู้หญิงไทย

“เพจสายไหมต้องรอด” ระุบว่าได้รับข้อมูลจากกลุ่มคนไทยที่ประกอบธุรกิจทัวร์กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ระบุว่าคนจีนมักจะหาหญิงไทยหน้าตาดี ครอบครัวดี หรือเรียกว่าเป็น “แม่พันธุ์ดี” มาทำในลักษณะนี้

...

เคยรับการร้องขอความช่วยเหลือจากหญิงไทยพาลูกชายไปพบกับครอบครัวของสามีชาวจีนที่ประเทศจีน แต่กลับถูกครอบครัวฝ่ายชายยึดพาสปอร์ตและไล่ให้ผู้หญิงไทยกลับ แต่จะเอาลูกชายไว้ที่ประเทศจีน

ทำให้หญิงไทยกังวลความไม่ปลอดภัยจึงพาลูกชายหลบหนีไปซ่อนตัวในโรงแรม ขอให้ช่วยเหลือ

เป็นอีกพฤติกรรมเสื่อมเสียของกลุ่มชาวจีนอาจเข้าข่ายเป็นกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานกระทำความผิดแบบเดียวกับกลุ่มทุน “จีนเทา” แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์และอุ้มบุญ

เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งคลี่คลายข้อสงสัย.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ "เลขที่1 วิภาวดีฯ" เพิ่มเติม