รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยผลการหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในประเด็นการปรับปรุงระบบการประเมินวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่า สำนักงานงาน ก.ค.ศ.ได้เสนอแนวทางการปรับปรุงระบบการประเมินวิทยฐานะฯให้ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และได้ข้อสรุปให้เดินหน้าใช้เกณฑ์ PA โดยให้ดำเนินการปรับปรุงระบบการประเมินฯ ปีงบประมาณ 2567 ใน 6 ประเด็น ได้แก่ 1.เพิ่มห้องเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สำหรับข้าราชการครูที่สอนในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เช่น แนะแนว ลูกเสือ เนตรนารี รวมทั้งปรับปรุงภาระ งานสอนในส่วนของชั่วโมงสอนให้เหมาะสมกับสภาพการปฏิบัติงานจริง 2.เพิ่มทางเลือกในการยื่นคำขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ/ เชี่ยวชาญ/เชี่ยวชาญพิเศษ สำหรับครูที่มีความถนัดในการสร้างและใช้นวัตกรรม 3.เพิ่มตัวชี้วัดการประเมินด้านผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน 4.เพิ่มช่องทางการแนบหลักฐานการได้รับรางวัล หรือได้รับการรับรองจากองค์กรของรัฐหรือเอกชน เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ โดยเป็นการแนบตามความสมัครใจไม่เป็นเงื่อนไขบังคับ 5.พัฒนาระบบ DPA Version 3 ให้สะดวกต่อผู้ใช้งานมากขึ้น และ 6.จัดทำแอปพลิเคชันสำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างสำนักงาน ก.ค.ศ.กับกรรมการประเมินในระบบ DPA

เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวอีกว่า ทุกฝ่ายเห็น ตรงกันว่า ควรเปิดกว้างและเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายในการประเมินให้ข้าราชการครูได้เลือกประเมินตามความเหมาะสมและความถนัด โดยได้เพิ่มห้องเรียนรวมถึงทางเลือกในการยื่นคำขอเพิ่มขึ้น และใช้ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนเข้ามาเป็นตัวชี้วัดเพิ่มเติม เนื่องจากเกณฑ์ PA ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของเด็กไปพร้อมๆกับเทคนิควิธีการจัดการเรียนการสอนของครู ตนขอยืนยันและให้ความมั่นใจกับข้าราชการครูว่า ศธ.เดินหน้าใช้เกณฑ์ PA ในการประเมินวิทยฐานะฯต่อไป และขณะนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.เร่งดำเนินการปรับปรุงระบบการประเมินฯ และปรับระบบ DPA ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการดำเนินการทั้ง 6 ประเด็น.

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่