“บิ๊กต่อ-รองโจ๊ก-รมว.ทวี” ร่วมเปิดโครงการ “ลบประวัติ ล้าง ความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน” ให้บริการตรวจสอบคุณสมบัติผ่านเว็บไซต์ www.crd-check.com เหตุมีประชาชนจำนวนมากที่เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีอาญาและศาลยกฟ้องหรืออัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่ยังมีประวัติอยู่ในฐานข้อมูลกองทะเบียนประวัติอาชญากร ส่งผลไม่ได้รับพิจารณาเข้าทำงาน ขาดโอกาสกลับไปใช้ชีวิตใหม่ ไม่มีรายได้และอาจทำให้ต้องก่ออาชญากรรมซ้ำ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหลักในคดีอาญาหากไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้สันนิษฐานว่าไม่มีความผิด เผยคืนสิทธิให้ผู้มีมลทินจากโครงการนี้แล้ว 9.3 ล้านคนจากทั้งหมด 13 ล้านคน ส่วนคดี “ทักษิณ” ผบ.ตร.ระบุไม่เข้าเกณฑ์ เพราะมีโทษสูงกว่า 1 ปี
ตร.ให้บริการตรวจสอบประวัติล้างมลทิน เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เป็นประธานแถลงข่าวเปิดโครงการ “ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน” ร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล แห่งศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้แทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้แทนจากกรมการจัดหางาน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
การแถลงข่าวครั้งนี้สืบเนื่องด้วยปัจจุบันหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบประวัติของบุคคลจำนวนมากเพื่อคัดกรองบุคคลเข้าทำงาน ประชาชนต้องแสดงผลตรวจสอบประวัติอาชญากรรมประกอบในการสมัครงาน เพื่อหารายได้มาดำรงชีพ มีประชาชนจำนวนมากที่เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีอาญา แต่ศาลพิพากษายกฟ้อง พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องจะยังมีประวัติอาชญากรรมอยู่ในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ทำให้ถูกตัดสิทธิไม่ได้รับการพิจารณาเข้าทำงาน ขาดโอกาสในการหางานประกอบอาชีพกลับไปใช้ชีวิตใหม่เฉกเช่นประชาชนทั่วไป ทำให้ขาดรายได้และอาจทำให้ต้องก่ออาชญากรรมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
...
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ในขณะนั้น มอบหมาย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยศและตำแหน่งในขณะนั้น จัดทำโครงการแก้ไขปัญหา ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบรายการที่ยังไม่เคยรายงานผลคดีถึงที่สุดในฐานข้อมูลกองทะเบียนประวัติอาชญากรกว่า 13 ล้านรายการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ประชุมเร่งรัดติดตามผลคดีถึงที่สุดเป็นประจำทุกเดือน ภายในระยะเวลา 1 ปีเศษสามารถลบหรือคัดแยกประวัติอาชญากรรมให้แก่บุคคลที่เข้าหลักเกณฑ์ตามระเบียบขณะนั้นได้ 2 ล้านรายการ เทียบเท่ากับที่เคยทำมาตลอดระยะเวลา 10 ปี ก่อนเริ่มโครงการ
ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.มอบหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.กำกับ ดูแล ปรับปรุง แก้ไขระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ.2561 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมกับศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปรับปรุงแก้ไขระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ.2566 ได้ลงนามและมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2566 ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 29 วรรคสองเป็นไปตามหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์หรือ Presumption Of Innocence ว่าในคดีอาญาหากไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้สันนิษฐานว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด โดยปรับปรุงการจัดเก็บประวัติบุคคลออกเป็น 3 ทะเบียน คือ 1) ทะเบียนประวัติผู้ต้องหา 2) ทะเบียนประวัติอาชญากร 3) ทะเบียนประวัติผู้กระทำความผิดที่มิใช่อาชญากร
นอกจากนี้ยังปรับปรุงหลักเกณฑ์การถอนประวัติออกจากฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากรเป็น 9 ข้อ คือมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง, ยกฟ้อง, มีกฎหมายยกเลิกความผิดนั้น, ผู้เสพยาเสพติดที่ผ่านการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่มีผลเป็นที่น่าพอใจ, ผู้ที่ได้รับการนิรโทษกรรม, มีกฎหมายล้างมลทิน, ได้รับการอภัยโทษ, ไม่มีการกระทำความผิดซ้ำภายใน 20 ปี, ผู้ต้องหาเป็นเด็กหรือเยาวชน, มีคำพิพากษาใหม่ว่ามิใช่ผู้กระทำความผิด และคดีขาดอายุความ เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลประวัติอาชญากรให้เป็นปัจจุบัน ผลการแบ่งทะเบียนในการจัดเก็บข้อมูลและหลักเกณฑ์การคัดแยกประวัติอาชญากรรมตามระเบียบนี้ ทำให้มีบุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากรเพียง 3,729,173 ราย จากทั้งหมด 13,051,234 ราย สามารถคืนสิทธิให้กับประชาชนจากโครงการนี้กว่า 9.3 ล้านคน ในขณะเดียวกันยังใช้ข้อมูลเพื่ออำนวยความยุติธรรมในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวมและประเทศชาติ
ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ปรับปรุงการให้บริการประชาชนในการตรวจสอบคุณสมบัติว่าเป็นผู้ที่อยู่ในโครงการลบประวัติล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชนหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ www.crd-check.com เมื่อท่านมีชื่ออยู่ในโครงการหมายความว่าประวัติอาชญากรรมของท่านได้ถูกคัดแยกและถอนประวัติเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยถึงโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการคืนสิทธิให้กับประชาชนได้กว่า 9.3 ล้านคนจาก 13 ล้านคน ในระยะเวลา 2 ปี ส่วนประเด็นของนายทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างต้องโทษและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น โครงการนี้ไม่สามารถใช้ได้กับนายทักษิณ เพราะมีโทษสูงกว่า 1 ปี และเป็นโทษหนัก ประเด็นของนายทักษิณผ่านขั้นตอนของตำรวจไปแล้วไม่ได้อยู่ในความดูแลของตำรวจ แต่อยู่ในการดูแลของกระบวนการยุติธรรม หรือกรมราชทัณฑ์ ส่วนจะมีการพระราชทานยศคืนนายทักษิณหรือไม่นั้น ไม่ใช่หน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่