บทที่ 42 ใน “ดรุณศึกษา” แบบเรียนที่ภราดา ฟ.ฮีแลร์ แต่งให้นักเรียน ป.2 โรงเรียนอัสสัมชัญหัดอ่าน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ชื่อเรื่อง จุดเอียนตุนดูเล่น...ครับ

ค่อยๆอ่านกันไป แล้วคงพอจะนึกได้บ้างละน่า! เคยอ่านจากที่ไหนมาก่อน

อันว่า พระเจ้าอิวอ๋อง ผู้ครองราชสมบัติอยู่ในเมืองโกเก๋ง ประเทศจีนโบราณ ครั้งสมัยเลียดก๊กนั้น พระองค์คิดแต่จะหาความสบาย เล่นสนุกสุขสำราญวันยังค่ำ...

วันหนึ่งทรงทอดพระเนตรเห็นนางโปซูมเหสี มิได้ยิ้มแย้มตามที่เคย ก็ทรงรำคาญพระทัยนัก คิดจะใคร่ให้นางโปซูสำรวลยิ้มแย้มบ้าง จึงตรัสว่า“ผู้ใดจะกระทำให้นางโปซูหัวเราะได้ เราจะให้ทองคำพันตำลึงเป็นรางวัล”

ขุนนางชื่อเช็กฮู เป็นคนชำนาญการประจบประแจง จึงพูดว่า “ซึ่งจะให้พระมเหสีทรงพระสรวลนั้น ข้าพเจ้าเห็นอุบายอยู่อย่างหนึ่ง ขอพระองค์เชิญนางโปซูขึ้นพลับพลาสูง ซึ่งปลูกไว้บนภูเขาสินสาน

ข้าพเจ้าจะขอขึ้นไปจุดไฟบน “เอียนตุน” ซึ่งทำไว้สำหรับเป็นสัญญาณนัดกองทัพหัวเมือง”

คำว่า “เอียนตุน” นี้แปลเป็นภาษาไทยโบราณว่า “ร้านไฟ” เป็นหอคอยซึ่งคนโบราณสร้างไว้บนยอดเขาที่สูงๆ มีกลองสำหรับตีไว้ใบหนึ่ง ถ้าเมืองหลวงเกิดศึกเมื่อใด ก็จุดเพลิงบนร้านไฟ และตีกลองเป็นสำคัญ

พระเจ้าอิวอ๋องทรงสรรเสริญสติปัญญาเช็กฮู สั่งให้ไปจัดแจงพลับพลาสูงที่จะทอดพระเนตร

ครั้นเวลาค่ำ พระเจ้าอิวอ๋องจึงตรัสสั่งให้เจ้าพนักงานตีกลอง และจุดเพลิงขึ้นสว่างทุกเอียนตุน

พวกหัวเมืองทั้งปวงตกใจ สำคัญว่าเมืองหลวงเกิดศึก กะเกณฑ์กระบวนทัพ พอรุ่งเช้าก็รีบไปเมืองหลวง

ครั้นกองทัพหัวเมืองมาถึงชานพระนคร พระเจ้าอิวอ๋องจึงตรัสว่า “เราให้จุดเอียนตุนดูเล่นๆดอก! บ้านเมืองหามีศึกศัตรูไม่? ท่านพากันมาใย? ให้ลำบากยากเข็ญแก่แกล้วทหาร จงกลับไปเมืองเถิด!”

...

นายทัพนายกองทั้งปวงได้ฟังดังนั้นก็เสียใจ จึงคิดว่า “พระเจ้าอิวอ๋อง ช่างไม่มีเมตตากรุณา ชั้นแต่จะเล่นก็ให้ร้อนไปถึงหัวเมือง ต้องมาลำบาก” ต่างก็นึกน้อยใจ จึงให้ทหารม้วนธงสำหรับทัพ กลับไปบ้านเมืองของตัว

ขณะนั้นนางโปซูนั่งดูกองทัพหัวเมืองหมดทั้งมวล เมื่อแรกยกมา เห็นผู้คนโห่ร้องคึกคัก ทำท่าทางห้าวหาญ จะเอาความชอบ ครั้นต้องกลับไปเปล่า ต่างก็ทำหน้าเก้อ ก้าวขามิใคร่ออก

นางโปซูคิดขัน จึงว่าช่างกระไรเลย แต่ล้วนคนเก้อ เป็นหมื่นเป็นแสนทีเดียว ว่าแล้วก็หัวเราะขึ้นมา

พระเจ้าอิวอ๋องเห็นนางโปซูหัวเราะ ก็สบายพระทัย ครั้นทัพหัวเมืองกลับสิ้นแล้ว จึงให้พาเช็กฮูเข้ามาตรัสว่า “ช่างคิดกลอุบายชอบกลดีจริง ให้นางโปซูหัวเราะได้” ว่าแล้วจึงพระราชทานทองคำ 5,000 เหรียญให้เช็กฮู

ต่อมาฝ่ายเซเลเทเจ้าเมืองเกียงหยง จัดแจงทหารเอกทหารเลวที่มีกำลังและฝีมือเข้มแข็งชำนาญศึกหลายหมื่นคน ให้พุดเตเต๋งเป็นทัพหน้า บ้วนม้าเป็นทัพหลัง เซเลเทเป็นทัพหลวง ยกมาตีเมืองโกเก๋ง

พระเจ้าอิวอ๋องได้ทรงทราบ ก็มีรับสั่งให้ทหารขึ้นไปจุดเพลิงบนเอียนตุน สัญญาณเรียกทัพหัวเมืองมาช่วย ฝ่ายหัวเมืองแลเห็นแสงเพลิงบนหอไฟ ก็สำคัญว่าพระเจ้าอิวอ๋องจุดไฟเล่น

ต่างเมืองก็มิได้ยกมาช่วย

ฝ่ายเซเลเท ขี่ม้ายืนอยู่หน้าเมือง เห็นได้ที ด้วยไม่กลัวทัพกระหนาบ ก็เข้าเมืองได้โดยง่าย บรรดาขุนนางสอพลอล้วนขวัญหนีดีฝ่อไม่เป็นอันอยู่สู้รบ เซเลเทก็ไล่ฆ่าฟันทหารชาวโกเก๋งเป็นอลหม่าน

แล้วเข้าล้อมจับพระเจ้าอิวอ๋อง กับขุนนางข้าราชการ ผลาญชีวิตเสียทั้งสิ้น

เรื่องจุดเอียนตุนเล่น...แบบเรียน ป.2 โรงเรียนฝรั่ง ได้เนื้อหามีสีสันเร้าใจ แต่สาระเดียวกับเด็กเลี้ยงแกะ...เด็ก ป.เตรียม โรงเรียนไทย... เราถูกสอนเหมือนกัน การโกหกเป็นเรื่องเสียหายใหญ่หลวง

อย่าสงสัย บ้านเมืองที่มีแต่ผู้ใหญ่ พูดจาสับปลับกลับกลอกเชื่อถือไม่ได้ ฉากท้ายจะเหมือนเมืองโกเก๋งหรือไม่?

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม