- อุตุฯ ประกาศสิ้นสุดฤดูร้อน และเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน 22 พ.ค. 2566
- ปีนี้คาดเจอทั้งฝนทิ้งช่วง-พายุหมุนเขตร้อน
- สภาวะเอลนีโญในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม อาจทำให้ปริมาณฝนบริเวณประเทศไทย มีค่าต่ำกว่าค่าปกติ ส่วนอุณหภูมิจะสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อย
เริ่มเข้าฤดูฝนเมื่อไร
หลายคนคงอยากโบกมือลา "ฤดูร้อน" 2566 ที่ร้อนตับแตกนี่ไปเสียไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้ แต่อดใจรออีกนิด เพราะกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเรื่อง การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2566 โดยระบุว่า ประเทศไทยจะสิ้นสุดฤดูร้อนและเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝน ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566
เงื่อนไขการประกาศเข้าสู่ฤดูฝน
กรมอุตุฯ จะพิจารณาจากปัจจัยทางด้านอุตุนิยมวิทยา ดังนี้
- มีฝนตกชุกต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ (ร้อยละ 60 ของพื้นที่ขึ้นไป)
- ทิศทางลมตั้งแต่ระดับล่างใกล้ผิวพื้นถึงความสูง 3.5 กม. เปลี่ยนทิศทางเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศอย่างต่อเนื่อง
- ลมชั้นบน ตั้งแต่ระดับควมสูง 5 กม. ขึ้นไป เปลี่ยนทิศทางลมเป็นตะวันออกเฉียงเหนือ
สถานการณ์เอนโซ ปรากฏการณ์เอลนีโญ/ลานีญา ต่อปริมาณฝน
ขณะที่ สถานการณ์ ENSO (Nino/Southern Oscillation) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงของระบบบรรยากาศมหาสมุทร ในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน มีระยะซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศทั่วโลก จะเกิดขึ้นทุกๆ 3-7 ปี (โดยเฉลี่ย 5 ปี) และโดยทั่วไปจะใช้เวลา 9 เดือน-2 ปี ส่งผลกระทบต่อน้ำท่วม ความแห้งแล้งและความวุ่นวายอื่นๆ ทั่วโลก
โดยกรมอุตุฯ พบว่า สถานการณ์ปัจจุบัน (ณ เดือนเมษายน) ปรากฏการณ์เอนโซอยู่ในสภาวะปกติ โดยอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเขตศูนย์สูตรสูงกว่าปกติ ยกเว้นบริเวณตอนกลางของมหาสมุทรฯ ที่ยังคงมีผิวน้ำทะเลต่ำกว่าค่าปกติ
...
สำหรับในสัปดาห์ที่ผ่านมาอุณหภูมิผิวน้ำทะเลเฉลี่ยสูงกว่าค่าปกติประมาณ 0.1-27 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิน้ำทะเลที่อยู่ลึกจากผิวน้ำลงไปจนถึงระดับ 300 เมตร ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา พบว่า มีอุณหภูมิผิวน้ำทะเลสูงกว่าค่าปกติทั่วทั้งบริเวณมหาสมุทรฯ ในระดับลึก ลักษณะดังกล่าวส่งผลให้ระบบการหมุนเวียนบรรยากาศที่ระดับ 850 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสคาล: hPa) หรือที่ความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีลมตะวันออกที่มีกำลังใกล้เคียงปกติพัดปกคลุมตลอดบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตร สำหรับลมที่ระดับ 200 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสคาล: hPa) หรือที่ความสูงประมาณ 11 กิโลเมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีลมตะวันตกที่มีกำลังแรงกว่าปกติพัดปกคลุมเกือบตลอดบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเขตศูนย์สูตร
การคาดหมาย จากอุณหภูมิผิวน้ำทะเลและระบบการหมุนเวียนบรรยากาศบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก บริเวณเขตศูนย์สูตรมีค่าใกล้เคียงค่าปกติ ประกอบกับเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติและแบบจำลองเชิงพลวัตแล้ว คาดว่า ปรากฏการณ์เอนโซที่อยู่ในสภาวะปกติจะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนพฤษภาคม
จากนั้นมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะเอลนีโญในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม 2566 ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย คาดว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม 2566 ปริมาณฝนบริเวณประเทศไทยมีค่าต่ำกว่าค่าปกติ ส่วนอุณหภูมิจะสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อย
อาจเจอฝนทิ้งช่วง-พายุหมุนเขตร้อน
อย่างไรก็ตาม กรมอุตุฯ คาดการณ์สภาพอากาศ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย โดยพบว่า ปริมาณฝนรวมของทั้งประเทศในช่วงฤดูฝนปีนี้ จะน้อยกว่าค่าปกติเล็กน้อย ประมาณร้อยละ 5 และน้อยกว่าปี 2565 ที่ผ่านมา
ปลายพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับใน บางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบนเป็นระยะๆ บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและต่อเนื่อง กับจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง
อย่างไรก็ตามในช่วงประมาณกลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม จะเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง อาจส่งผลทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำด้านการเกษตรได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน
ส่วนในช่วงเดือนสิงหาคม และกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่จะมีฝนตกชุกหนาแน่นที่สุด มีโอกาสสูงที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบน ซึ่งส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ และก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่
สิ้นสุดฤดูฝน
ทั้งนี้ กรมอุตุฯ คาดการณ์ว่า ฤดูฝนของประเทศไทยตอนบน จะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม.
ผู้เขียน : เจ๊ดา วิภาวดี
กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun