ไฟไหม้ป่าจนเกิดควันพิษ กำลังลามไปทั่วประเทศ

มันเป็นห้วงเวลาของการเผา ตามความเชื่อ?

ชาวบ้านที่อาศัยตามป่าเขา ส่วนใหญ่ทำเกษตรเชิงเดี่ยว จะเผาป่าเพื่อเริ่มทำเกษตรครั้งใหม่ มีพืชบางชนิดอาจต้องใช้ไฟเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตหรือผลัดเปลี่ยน เช่น ช่วยให้ผักหวานแตกยอด หรือเห็ดเผาะไม่สามารถขึ้นได้เมื่อมีต้นไม้และหญ้าขึ้นคลุมดินจำนวนมาก ทำให้เชื่อว่า เมื่อเผาป่าจะทำให้พืชเจริญงอกงาม?

แต่หารู้ไม่ว่า ยุคนี้ป่าเขาไม่มากเหมือนแต่ก่อน ควันที่เกิดจากการเผาป่า มันปลิวไปได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร เข้าไปในชุมชน ไปในเมือง

สร้างความเดือดร้อน และเกิดอันตรายจากมลพิษ!

อย่างที่ภาพถ่ายผ่านดาวเทียมหลายสำนัก นำมาแสดงให้เห็นจุดแดงๆ แผ่ขยายไปทั่วทุกหัวระแหง ถ้าส่องไปถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย อาจเห็นปัญหาหนักกว่านั้น?!

ทำให้เกิดภัยร้ายของฝุ่นพิษ PM 2.5 ทำให้ป่วยจากโรคทางเดินหายใจ หนักบ้าง เบาบ้าง แล้วแต่ใครจะรับไปเท่าไหร่ หรือร่างกายแข็งแรงแค่ไหน?

ช่วงนี้จะเห็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยาน ลงภาพออกลาดตระเวนจับกุม “มือเผา” กันถี่ยิบ ส่งพนักงานสอบสวนตำรวจท้องที่ดำเนินคดีกันเป็นแถว

เป็นสัญญาณเตือนว่า เอาจริงแล้วนะ

เพราะตามข้อมูลของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาเหตุของไฟไหม้ป่า 99.8 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากฝีมือมนุษย์!

โทษของการจุดไฟเผาป่าในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ไม่ใช่น้อยๆ จำคุกตั้งแต่ 4–20 ปี และปรับตั้งแต่ 4 แสนบาทถึง 2 ล้านบาทตามความเสียหายของพื้นที่ หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่าเอาความมักง่าย เอาความเชื่อเก่าๆมาใช้?

เห็นใจเพื่อนร่วมชาติ ที่กำลังถูกทำลายสุขภาพโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ มันไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้หรอก...

...

สหบาท