ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โอดเจอเอเย่นต์ทัวร์ต่างชาติโวยยับ หลังไทยกลับมาออกกฎบังคับฉีดวัคซีน 2 เข็ม แบบกะทันหัน ทำธุรกิจเสียหายหนัก ทัวริสต์โดนปฏิเสธขึ้นเครื่อง ด้าน “พิพัฒน์” เสนอ “อนุทิน” ยกเลิกกฎนี้อย่างเร่งด่วน แต่ยังบังคับให้นักท่องเที่ยวจากชาติที่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศต้องซื้อประกันสุขภาพมาด้วย พร้อมจัดเตรียมบริการตรวจ RT-PCR ที่โรงแรม ขณะที่ผู้ว่าการ ททท.ยันสำนักงานการบินพลเรือนฯปรับข้อกำหนดแล้ว นักท่องเที่ยวที่ไม่มีหลักฐานวัคซีนสามารถเดินทางมาไทยได้ โดยจะสุ่มตรวจ ATK ที่สนามบิน

ไทยพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เริ่มหลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.เป็นต้นไป ในขณะที่ในประเทศจีนยังมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 อย่างหนัก จนกระทรวงสาธารณสุขต้องออกมาตรการเฉพาะหน้าที่มีสาระสำคัญคือให้ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยต้องแสดงข้อมูลการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ซื้อประกันสุขภาพเดินทางที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคโควิด-19 นั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค.นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมส่งสำเนาถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าจากการที่กระทรวงสาธารณสุขออกมาตรการของผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.2566 เป็นต้น ไปนั้น มีผู้ประกอบการนำเที่ยวในหลายประเทศ แสดงความกังวลอย่างสูงสุด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตก็มีความห่วงใยต่อสถานการณ์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากบริษัทนำเที่ยวต่างๆแสดงความไม่พอใจ และนักท่องเที่ยวจำนวนมากจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎการเดินทางในครั้งนี้ จึงขอความกรุณานายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการโดยด่วนที่สุด เพื่อหาทางออกให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

...

นายภูมิกิตติ์กล่าวอีกว่า การไม่เห็นด้วยกับประกาศของรัฐบาลไทย อาทิ บริษัทนำเที่ยวประเทศอังกฤษมองว่า การประกาศนี้ทำฉุกเฉินเกินไป ควรมีระยะเวลาแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ออกเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่อง และอาจไม่ได้นำใบรับรองการฉีดวัคซีนมา จึงจะทำให้โดนปฏิเสธการขึ้นเครื่องบินได้ และบริษัทนำเที่ยวต้องคืนเงิน อีกทั้งไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทย บริษัทนำเที่ยวพยายามหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของรัฐบาลแต่ไม่สามารถหาได้ ขณะที่ความคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวประเทศภาคพื้นสแกนดิเนเวียแจ้งว่า ไม่สามารถแจ้งลูกค้าได้ทันเรื่องการตรวจใบรับรองการฉีดวัคซีน ซึ่งไทยประกาศในวันเสาร์อาทิตย์ และมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ และมีลูกค้าในประเทศแถบสแกนดิเนเวียที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนที่ซื้อแพ็กเกจทัวร์แล้ว บริษัทนำเที่ยวต้องหาทางออกให้ลูกค้าโดยการยกเลิกและคืนเงิน เป็นความเสียหายทางธุรกิจ ส่วนบริษัทนำเที่ยวประเทศเยอรมนี ระบุว่าทันทีที่มีข่าวเรื่องการเปลี่ยนมาตรการการเดินทาง บริษัทได้รับการยกเลิกจากลูกค้าถึงขณะนี้กว่า 1,000 ห้องพักแล้ว และมาตรการใหม่ของรัฐบาลไทยไม่เข้าข่ายที่นักท่องเที่ยวจะขอคืนเงินจากสายการบินได้หากโดนปฏิเสธการเดินทาง ประเด็นนี้สร้างความไม่พอใจและกระแสที่ไม่ดีต่อประเทศไทย

นายภูมิกิตติ์ระบุอีกถึงความคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวประเทศฝรั่งเศสมีความไม่พอใจในการเปลี่ยนกฎเนื่องจากระเบียบนี้ไม่เข้าข่ายการคืนเงินของสายการบิน เช่นเดียวกับความคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวประเทศรัสเซียและ CIS ระบุว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ทำสัญญาเช่าเหมาลำเครื่องบินหรือซื้อจำนวนที่นั่งจากสายการบินไว้ล่วงหน้า การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดในลักษณะนี้ เป็นการทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้ สร้างความเสียหายและผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก และผู้ประกอบการต้องการได้รับข้อกำหนดและหลักปฏิบัติที่เป็นเอกสารทางราชการมากกว่าข่าวจากสื่อมวลชน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ถึงเรื่องนี้ว่าหลังได้รับรายงานข้อกังวลจากภาคเอกชนท่องเที่ยวได้หารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุขแล้ว เพื่อขอให้เร่งปรับกฎเกณฑ์กลับไปใช้กฎเดียวกับตอนประกาศยกเลิกการลงทะเบียนผ่านระบบไทยแลนด์พาส ยกเว้นนักท่องเที่ยวจากประเทศที่บังคับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ขากลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพ เพราะหากตรวจแล้วผลเป็นบวก จะได้เคลมประกันรักษาพยาบาลในประเทศไทยได้ ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะแจ้งให้ทางโรงแรม SHA+ จัดเตรียมบริการตรวจ RT-PCR ที่โรงแรม เพื่อรองรับความต้องการตรวจล่วงหน้า 1 วันก่อนนักท่องเที่ยวจากประเทศนั้นๆ เดินทางกลับ

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ช่วงหัวค่ำวันที่ 7 ม.ค. สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. (CAAT) มีการปรับตัดคำให้สายการบินปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องออกจากข้อกำหนดแล้ว ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่ไม่มีหลักฐานวัคซีนสามารถเดินทางมาไทยได้ โดยจะมีการสุ่มตรวจ ATK ที่สนามบินโดยผู้เชี่ยวชาญ และทราบว่าในการประชุมคณะกรรมการวิชาการกระทรวงสาธารณสุข วันที่ 9 ม.ค. มีการพิจารณาทบทวนมาตรการดังกล่าว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. ออกประกาศ NOTAM ข้อกำหนดผู้โดยสารเดินทางทางอากาศ ซึ่งข้อปฏิบัติจะเริ่ม ใช้เวลา 08.00 น. วันที่ 9 ม.ค.2566 ถึงเวลา 00.59 น. วันที่ 31 ม.ค.2566 นั้น ล่าสุด กพท. ได้ออกประกาศปรับปรุง NOTAM เรื่องข้อกำหนดในการเข้าประเทศไทย สำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยอ้างอิงให้เกิดความชัดเจนว่าเป็นมาตรการที่กำหนดโดยกระทรวงสาธารณสุข และเพื่อกำหนดวงเงินประกันให้ครอบคลุมการรักษากรณีติดเชื้อ อีกทั้งเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มต่างๆและชัดเจนมากขึ้น เช่น นักเรียน นักศึกษา ผู้ถือหนังสือเดินทางราชการ หนังสือเดินทางทูต เป็นต้น จึงได้เปลี่ยนเงื่อนไขกรณีผู้โดยสารที่ไม่สามารถแสดงเอกสาร จากเดิมให้สายการบินปฏิเสธการให้ขึ้นเครื่อง เป็นหากผู้โดยสารไม่สามารถแสดงเอกสารการได้รับวัคซีนได้ อาจต้องถูกตรวจการติดเชื้อ ณ จุดขาเข้า ทั้งนี้ในประเด็นดังกล่าวต้องแก้ไข NOTAM เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นกระทรวงที่ใช้อำนาจควบคุมด้านสุขภาพของบุคคลที่เดินทางเข้าประเทศ ยังไม่สามารถออกประกาศหรือข้อกำหนดที่จะนำมาใช้ในการห้ามผู้โดยสารขึ้นเครื่องหากไม่ได้รับวัคซีนครบกำหนดได้ในขณะนี้ จึงต้องปรับการห้ามออกไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีฐานอำนาจตามกฎหมายที่สมบูรณ์

...

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 ม.ค. เวลา 12.15 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารจากทั้ง 3 กระทรวง จะเข้าร่วมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเดินทางมาประเทศไทย ภายหลังทางการจีนทยอยเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.

น.ส.ไตรศุลีกล่าวอีกว่าเที่ยวบินจากสาธารณรัฐ ประชาชนจีนที่รองนายกรัฐมนตรีและคณะจะให้การต้อนรับในครั้งนี้ คือเที่ยวบิน MF833 เดินทางมาจากเมืองเซียะเหมิน มีผู้โดยสารทั้งหมด 286 คน และภายหลังกิจกรรมการต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว รองนายกรัฐมนตรีและคณะ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงแนวทางประสานการทำงานของ 3 กระทรวงได้แก่กระทรวงสาธารณสุข การะทรวงคมนาคมและการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมจัดตั้งศูนย์ประสานงานร่วม 3 กระทรวง (Tourist Help Center) เพื่อประสานงาน ติดตามข้อมูล แก้ไขปัญหา ตลอดจนให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในระยะต่อไป