น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนได้ฝากให้นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) คนใหม่ ช่วยขับเคลื่อนงานที่เกี่ยวกับศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เนื่องจากโครงสร้างของ ศธ.เป็นโครงสร้างใหญ่จึงทำให้อำนาจและขอบเขตงานในระดับพื้นที่ซับซ้อน และขาดข้อการเชื่อมต่อการทำงานที่เป็นระบบ ดังนั้นตนจึงอยากให้ปลัด ศธ.คนใหม่ได้เข้ามาบริหารจัดการงาน ศธจ.ในพื้นที่ให้เข้มข้นมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนมากกว่านี้ เพราะเท่าที่ตนลงพื้นที่รับฟังปัญหามีการสะท้อนว่าการบูรณาการการทำงานด้านนโยบายการศึกษาระดับพื้นที่ขาดการเชื่อมต่อเป็นอย่างมาก

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ส่วนการปรับแก้กฎหมายหลังจากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของ สธ.ไปแล้วนั้น ระหว่างนี้ ศธ.เตรียมความพร้อมรองรับการประกาศใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว ซึ่งเป็นการโอนภารกิจด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ไปให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ประจำเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ซึ่งหลายฝ่ายห่วงว่าเมื่องานบริหารบุคคลกลับไปอยู่ที่เขตพื้นที่อาจทำให้มีเรื่องการทุจริตเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งตนได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินภารกิจการโอนงานบุคคลให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้และยืนยันว่าการบริหารงานบุคคลโดยเฉพาะการแต่งตั้งหรือโยกย้ายครูจะต้องมีความเป็นธรรม.