สุดเศร้า "แม่วัย 25" ใจสลายเสียลูกชายคนแรก อ้างหมอวิดีโอคอลสอนพยาบาลทำคลอด แต่สำลักน้ำคร่ำ สุดท้ายเด็กเสียชีวิต ซ้ำโดนโบ้ยเพราะแม่ไม่ช่วยเบ่ง
จากกรณีเฟซบุ๊ก สายไหมต้องรอด ได้แชร์ภาพเด็กทารกเสียชีวิต โดยระบุข้อความว่า "โรงพยาบาลในจังหวัดปทุมธานี แม่ใจสลาย ทารกน้อยสำลักน้ำคร่ำเสียชีวิต หลังไปคลอดลูกที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคุณหมอใช้วิธีการวิดีโอคอลมาอธิบายวิธีการทำคลอด ให้พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล ช่วยกันทำคลอดอย่างทุลักทุเล โดยใช้เวลาทำคลอดนานกว่า 3 ชั่วโมง ตั้งแต่ 12.00 - 15.30 น. แม่พยายามร้องขอให้ผ่าคลอด เนื่องจากแบ่งจนสุดแรงแล้วแต่หัวของทารกก็ยังไม่ออกมา สุดท้ายผ่านไป 3 ชม. จนแม่หายใจรวยริน คุณหมอที่วิดีโอคอลจึงตัดสินใจให้พยาบาลใช้เครื่องดูดทารกออกมาจากช่องคลอด แต่ไม่ทัน ทารกสำลักน้ำคร่ำจนนอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว ต้องส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ปทุมธานี ผ่านไป 2 สัปดาห์ รพ.แจ้งว่าสุดยื้อชีวิต ต้องปล่อยลูกน้อยจากไป พ่อแม่ประสานแฟนเพจสายไหมต้องรอด ส่งรถรับศพทารกน้อยไปประกอบพิธีทางศาสนาทั้งน้ำตา"
ล่าสุด วันที่ 7 ก.ย. 2565 นางน้อย อุ่นน้อย อายุ 25 ปี แม่ของเด็ก เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2565 เวลาประมาณ 09.00 น. ตนมีอาการเจ็บท้องเลยไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งหมอบอกว่ามดลูกเปิด 1 ซม. และหมอก็บอกให้กลับบ้าน พอตกกลางคืนปวดท้องอีกจึงไปหาหมออีกครั้ง และหมอก็ให้นอนที่โรงพยาบาลพอมดลูกเปิด 2 ซม. และมีความดันสูง พอถึงช่วงเช้าหมอก็ให้ยาเร่งคลอดและมดลูกก็ทยอยเปิด ซึ่งตนเจ็บตั้งแต่ 5 ซม.แรก และก็บอกกับหมอว่าอยากย้ายโรงพยาบาล ให้ส่งฉุกเฉินผ่าได้ไหม โรงพยาบาลไหนก็ได้
...
ทางหมอจึงบอกว่า ถ้าจะให้ส่งตัวไปก็ต้องเซ็นปฏิเสธการรักษาที่โรงพยาบาลของเขา และให้เราไปเอง โรงพยาบาลจะไม่ไปส่ง ซึ่งตนก็ไม่มีเงิน จนประมาณเที่ยงกว่าของวันที่ 20 ส.ค. 2565 เขาจึงพาเข้าห้องคลอดจนถึงเวลาประมาณ 15.00 น. ซึ่งขณะที่หมอทำคลอดตนรู้เรื่องหมด ซึ่งตนเบ่งจนสุดแล้วลูกก็ยังไม่ออก หมอเขาก็โทรศัพท์หาหมอใหญ่ และบอกว่าเราไม่เบ่งเลย วินาทีนั้นตนเองเบ่งจนไม่ไหวแล้ว หมอมาและบอกว่าจะส่งไปผ่าโรงพยาบาลแห่งที่ 2
แต่ทางโรงพยาบาลแห่งที่ 2 บอกว่าหมอทำคลอดออกเวรแล้ว จากนั้นหมอโรงพยาบาลแรกกับหมอทางโรงพยาบาลแห่งที่ 2 ก็ได้วิดีโอคอลคุยกันเพื่อที่จะทำคลอด จากนั้นหมอก็ได้ใช้เครื่องดูดลูกของตนออกมา และพยาบาลก็บอกว่าลูกตนไม่ดีแล้วนะ เพราะตนไม่เบ่ง จนเวลาประมาณ 15.40 น. ลูกของตนก็ออกมา แต่ลูกไม่หายใจแล้ว ทางหมอก็พยายามปั๊มหัวใจและตีลูกให้เด็กตื่น และเขาก็บอกว่าตนไม่เบ่ง ไม่ทำอะไรเลย อะไรก็โทษแต่พยาบาลกับหมอ
จากนั้นเขาบอกให้ทำใจ เพราะลูกเราไม่ดีตั้งแต่แรก ซึ่งตนไม่รู้ว่าคำว่าไม่ดีตั้งแต่แรกคือเป็นตั้งแต่ในท้อง หรือตอนที่ทำคลอด เพราะเขาไม่อธิบายกรณีที่ตนขอผ่าคลอดแล้วเขาไม่ให้นั้น แม่ต้องมีอาการแทรกซ้อน มีโรคประจำตัว, ลูกไม่ดี, ลูกตัวเล็ก ซึ่งลูกตนตัวเล็กอยู่แล้ว 8 เดือน น้ำหนักแค่ 1,500 กิโลกรัม ซึ่งเขาไม่อ่านรายละเอียดเหรอ เพราะตนฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล มศว พอเข้าเดือนที่ 8 ตนเองย้ายมาที่โรงพยาบาลแห่งแรกเพื่อใช้สิทธิบัตร 30 บาท จึงสงสัยว่าทำไมเขาไม่อ่านรายละเอียดตั้งแต่แรกว่าลูกเราตัวเล็ก และตนก็เป็นโรคหอบ
หลังจากนั้นก็ส่งลูกไปที่โรงพยาบาลเด็ก จังหวัดสระบุรี เพื่อสแกนสมองและปรับร่างกายเป็นเวลา 3 วัน และก็ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งที่ 2 ต่อ แต่น้องก็ไม่มีอาการดีขึ้น ทางโรงพยาบาลสระบุรีก็ให้ทำใจ รักษาจนสุดแล้วจนต้องยุติการรักษา ถ้ารักษาต่อก็ไม่หาย 100% คือพิการติดเตียงและมีการเจาะท้อง เจาะคอ เพื่อให้สารอาหาร ตนจึงต้องปล่อยลูกไป ทั้งยังเป็นลูกชายคนแรกและตั้งใจมาก ก็อยากให้ทางโรงพยาบาลออกมาพูดคุยว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะตนอุ้มท้องมา 9 เดือน ยังไม่ได้เลี้ยงลูกเลย และที่อยู่ในห้องคลอดมีแต่พยาบาลประมาณ 5-6 คน และก็ผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งไม่มีหมอทำคลอดอยู่ในห้องขณะที่ทำคลอด
ทางด้าน นายแพทย์ศราวุธ ธนเสรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญบุรี กล่าวว่า ในเบื้องต้น กำลังทำรายงานผลสรุป เรื่องดังกล่าวส่งให้ทางสาธารณสุขจังหวัด ส่วนการแถลงข่าวต้องรอทางสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ให้ข่าวอีกครั้ง.