กรมศุลกากรเตือนนำเข้ากัญชา หรือ เมล็ดพันธุ์ ต้องผ่านพิธีการทางศุลกากร และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด มิฉะนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ โทษทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ส่งออก หรือนำติดตัวออกนอกประเทศต้องคำนึงถึงกฎหมายประเทศปลายทาง เพราะอาจถูกลงโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต ขณะที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เผยที่ประชุม คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ มีคำสั่ง ห้ามผู้ผลิตและนำเข้าขายผลิตภัณฑ์ยาสูบที่มีส่วนผสม ของกัญชา-กัญชง ในประเทศตามข้อสั่งการของนายกฯ
กรมศุลฯ เตือนนำเข้า-ส่งออกกัญชาต้องทำให้ ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 ก.ค. นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านระบบควบคุม ทางศุลกากร ฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศเรื่อง ระบุชื่อ ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 ซึ่งมีผล บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.65 สาระสำคัญคือกำหนดให้กัญชา กัญชงไม่เป็นยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มีสาร THC เกิน 0.2 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำหนักยังคง เป็นยาเสพติด ว่าจากประกาศดังกล่าวทำให้กัญชา กัญชงไม่เป็นยาเสพติด แต่หากมีการนำเข้า ผู้นำเข้า ต้องผ่านพิธีการทางศุลกากรและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประกาศของกรมวิชาการเกษตรที่ออกประกาศควบคุมการนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชาและควบคุมป้องกันโรค แมลงศัตรูพืชที่ติดมากับเมล็ดพันธุ์อย่างเข้มงวด
นายชัยยุทธกล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมายังมีการลักลอบนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชาและต้นกล้ากัญชาจำนวนมาก โดยเฉพาะตามตะเข็บชายแดนไทย หากนำเข้ามาโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร หรือนำเข้ามาโดยผ่านพิธีการศุลกากร แต่ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำเข้าอาจต้องโทษตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 โดยกรณีแรก หากเป็นการ นำเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ถือเป็นความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ม. 242 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินสี่เท่าของราคาของรวมอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของนั้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่
...
กรณีที่สอง หากนำเข้ามาโดยผ่านช่องทางศุลกากร แม้ปัจจุบันกัญชาถูกปลดจากการเป็นยาเสพติด ประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 แล้ว แต่การนำเข้ายังต้องคำนึงถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง คือ พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ.2518 และ พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ.2507 ดังนั้น กัญชายังเป็นสินค้า ควบคุมการนำเข้า หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับอนุญาตก่อนที่จะนำเข้ามาในประเทศไทย อาจเป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อจำกัดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ม.244 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“สำหรับผู้ที่ต้องการนำเข้ากัญชา ต้องผ่านพิธีการ ศุลกากรและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากลักลอบ นำเข้า หรือนำเข้ามาโดยผ่านพิธีการศุลกากรแต่ไม่มี ใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ หากนำ กัญชาออกนอกประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางกำหนดให้กัญชาเป็นพืชผิดกฎหมาย อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย อาจมีโทษทั้งจำทั้งปรับ หรือสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ขอให้ศึกษา ข้อกฎหมายของต่างประเทศให้ดีก่อนนำติดตัว หรือส่งออกไปต่างประเทศ” นายชัยยุทธกล่าว
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 ว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการห้ามนำเข้า ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมผลักดันร่างกฎกระทรวง กำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดขึ้น จากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งและออกใบรับรองและค่าธรรมเนียม ครอบคลุมการห้ามผู้ผลิตและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบ ผลิต หรือนำเข้าเพื่อขายผลิตภัณฑ์ยาสูบที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง สาร CBD และ THC เป็นส่วนประกอบในประเทศไทย เพื่อป้องกันการเกิดนักสูบหน้าใหม่และ คุ้มครองสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของประชาชน ถือเป็นการเสริมมาตรการการควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ไม่เหมาะสม ตามเจตนารมณ์กัญชาเสรีทางการแพทย์ ไม่ได้เน้นเรื่องสันทนาการ ทั้งนี้นายกฯ สั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งพิจารณาหาทางป้องกัน ควบคุมปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า
“ที่ประชุมยังแต่งตั้ง ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นโฆษกคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ เพราะมีทั้งเรื่องบุหรี่ ไฟฟ้า การห้ามสูบบุหรี่ที่สาธารณะ การป้องกันควบคุม การใช้ยาสูบประเภทต่างๆ เพื่อสื่อสารใกล้ชิดกับ ประชาชน และสาธารณะมากขึ้น” นายอนุทินกล่าว
ทั้งนี้ นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีมีเด็กนักเรียนมวนกัญชาขายและสูบในห้องเรียน ว่าเป็นการทำผิด กฎหมาย เพราะกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้ประโยชน์จากกัญชา คือ ทุกอย่างที่นำมาเสพ สูบ จำหน่าย เอามาใช้ เอามาปลูกก็ไม่ได้ ถ้าเกิดเด็กเข้ามาสูบกัญชาในห้องเรียนแล้วครูทำอะไรไม่ได้ ผอ.โรงเรียนต้องรับผิดชอบ ครูควบคุมนักเรียนไม่ได้ ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ตรงนี้ผิดอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นเรื่องระเบียบวินัยต่างๆที่จำเป็นต้องมี