ปัญหา "ขยะอิเล็กทรอนิกส์" หรือ Electronic Waste (E-Waste) เป็นปัญหาที่หลายคนยังมองข้าม ทั้งที่ชีวิตของเกือบทุกคน ต่างพัวพันอยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต สายชาร์จ พาวเวอร์แบงก์ หูฟัง แต่เมื่อเสื่อมสภาพแล้ว หลายคนไม่สามารถนำไปกำจัดได้อย่างถูกวิธี

รศ.ดร.สุธา ขาวเธียร ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาฯ ให้ข้อมูลว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่าทั่วโลกมีปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ 53.6-54 ล้านตันต่อปี ในจำนวนนี้มีประมาณ 18% เท่านั้นที่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง

"ขยะอิเล็กทรอนิกส์" เพิ่มขึ้นทั่วโลก อนาคตจะเป็นอย่างไร หากทิ้งผิดวิธี

...

การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ไม่ถูกต้องส่งผลกระทบ 2 ด้าน คือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์มีโลหะชนิดต่างๆ เป็นองค์ประกอบมีโอกาสที่จะปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นการสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ เนื่องจากตัวโลหะต่างๆ ที่อยู่ในขยะอิเล็กทรอนิกส์ ถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่า สามารถนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตต่อไปได้ หากได้รับการจัดการหรือผ่านกระบวนการรีไซเคิลที่ถูกวิธี

เมื่อประเมินจากแบบสอบถามที่ทำการศึกษาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่ประชาชนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์เท่าที่ควร มีการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์รวมกับขยะทั่วไป หรือบางครั้งก็ไม่นำไปทิ้ง แต่เก็บไว้ในบ้าน

"ขยะอิเล็กทรอนิกส์" เพิ่มขึ้นทั่วโลก อนาคตจะเป็นอย่างไร หากทิ้งผิดวิธี

สำหรับความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตรายจุฬาฯ กล่าวว่า ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับ พ.ร.บ. การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ยังเป็นร่าง พ.ร.บ. อยู่ เพราะมีปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการจัดการขยะค่อนข้างมาก เช่น ผู้รับซื้อของเก่า อบต. กทม. ฯลฯ

รวมถึงมีสาระสำคัญในร่าง พ.ร.บ. ที่ควรพิจารณา เช่น กระบวนการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการกำจัดอย่างไร ชิ้นส่วนต่างๆ ดำเนินการไปทิ้งที่ใด มีการควบคุมดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ฯลฯ ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษารายละเอียดอยู่ เพื่อให้ พ.ร.บ. ที่ออกมาสามารถควบคุมระบบบริหารจัดการตรวจสอบได้

1. โครงการจุฬาฯ รักษ์โลก ร่วมกับบริษัท Total Environmental Solutions จำกัด ได้เปิดรับบริจาคโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งดำเนินการมา 12 ปีแล้ว ส่งต่อให้บริษัทรับกำจัดและดำเนินการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง เป็นการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถูกวิธี โดยการบริจาคโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต 1 เครื่อง จะเปลี่ยนเป็นเงิน 10 บาท บริจาคเข้ากองทุนภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อสนับสนุน การวิจัยด้านการรักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกัน

"ขยะอิเล็กทรอนิกส์" เพิ่มขึ้นทั่วโลก อนาคตจะเป็นอย่างไร หากทิ้งผิดวิธี

...

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะทิ้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต จะต้องลบข้อมูลส่วนตัวออกก่อนทุกครั้ง ด้วยการทำ Factory Reset หรือการล้างข้อมูลทั้งหมดภายในเครื่อง รวมทั้งถอด Memory Card ออกด้วย ในส่วนของแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่บวม ให้นำไปแช่นํ้าก่อนทิ้ง 3-5 ชั่วโมง เพื่อลดประจุไฟฟ้า จากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วห่อด้วยกระดาษก่อนทิ้ง.

ผู้เขียน : J. Mashare
กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun

ข้อมูลจาก Chulalongkorn University