นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรม อนามัย กล่าวว่า จากการศึกษาของกรมอนามัย เรื่อง พัฒนาการของเด็กปฐมวัยไทยล่าสุด พบว่า เด็กปฐมวัยที่ไม่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก มีโอกาสที่จะพัฒนาการสมวัยเพิ่มขึ้น 1.43 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก และพบความชุกของโรคฟันผุในเด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 52.9 และเด็ก อายุ 5 ปี ร้อยละ 75.6 ซึ่งปัญหาฟันผุส่งผลให้เด็กเจ็บปวดทรมาน เสียสุขภาพ กระทบต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการของเด็ก และพบว่า การมีฟันผุหลายซี่ในปาก มีความสัมพันธ์กับภาวะแคระแกร็นของเด็ก เพราะทำให้เด็กกินอาหารลำบาก เคี้ยวไม่สะดวก และเด็กที่มีฟันน้ำนมผุมากจะมีแนวโน้มว่า ฟันแท้จะผุมากขึ้นเช่นกัน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรแปรงฟันให้เด็กตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้น ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ และแปรงฟันให้ต่อเนื่อง จนกว่าเด็กจะแปรงฟันได้เอง
ด้าน ทพญ.วรางคณา เวชวิธี ผอ.สำนักทันตสาธารณสุข กล่าวว่า สาเหตุหลักของการเกิดฟันผุในเด็กปฐมวัย เกิดจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม เช่น ปล่อยให้เด็กหลับคาขวดนม หลังจากฟันน้ำนมขึ้นในช่องปากแล้ว การให้เด็กกินขนม หรือเครื่องดื่มที่มีรสหวานเป็นประจำ ผู้ปกครองละเลยการแปรงฟันให้เด็กด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ทั้งนี้ อาการปวดฟันส่งผลให้เด็กนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ มีพัฒนาการบางด้านไม่สมวัย สุขภาพช่องปากจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่เด็ก เพื่อลดปัญหาฟันผุเมื่อโตขึ้น.