ไฮโซปอ ร่ำไห้ เปิดใจหลังให้ปากคำตำรวจ ไม่เห็นตอนตก แต่ชี้จุดได้ ยืนยันไม่ได้เมา และไม่ได้หนี มาให้การช้าเพราะกลับไปตั้งสติ ขอปาฏิหาริย์ พาเพื่อนกลับมา
จากกรณี แตงโม นิดา (ชื่อเดิม ภัทรธิดา) พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวชื่อดังที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ตั้งแต่ช่วงเวลา 22.40 น. วันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยงานที่ระดมทีมค้นหา จนล่าสุดผ่านไปกว่า 24 ชม. แล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่พบนักแสดงสาวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกเพื่อนของแตงโม ซึ่งอยู่บนเรือในช่วงที่เกิดเหตุ มาให้ปากคำ กระทั่งไฮโซปอ เจ้าของเรือ พร้อมด้วยกระติก ผู้จัดการ และเพื่อนอีก 2 คน เข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังให้ปากคำเสร็จ ไฮโซปอ เจ้าของเรือ ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก โดยระบุว่า ก่อนที่แตงโมจะพลัดตกลงไป ได้ขับเรือไปที่สะพานพระราม 8 เพื่อกินข้าว ขากลับ มีการขับไปยังสะพานพระราม 7 โดยจุดถ่ายรูปครั้งสุดท้าย ที่เห็นแตงโม อยู่บริเวณสะพานพระราม 8 และระหว่างที่ล่องเรือกลับ ตนอยู่บริเวณด้านหน้าเรือ ส่วนแตงโมอยู่กับเพื่อนอีกคนที่ชื่อ "แซน" นั่งอยู่ด้านท้ายเรือ โดยแตงโมได้จับขาแซนไว้ จากนั้นแตงโมตกน้ำ ก่อนที่แซนจะตะโกนบอกว่า แตงโมตกน้ำ และเพื่อนอีกคนชื่อ จ็อบ ได้ตะโกนให้หยุดเรือ และวนกลับไปยังจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้เป็นคนขับเรือ แต่เป็นรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ เราวนอยู่ตรงนั้น (ร้องไห้) ซึ่งเราไม่ได้ยินเสียง ร้องขอความช่วยเหลือเลย เนื่องจากเรือมีเสียงเครื่องยนต์ เสียงคลื่น และในเรือมีเสียงเพลง โดยบนเรือมีเสื้อชูชีพ แต่เราไม่ได้ใส่ ขณะที่ความเร็วของเรือก็ไม่ได้ขับเร็ว
ทั้งนี้ ตอนที่แตงโมตกลงไป ตนคงตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เห็น อาจจะต้องถามเพื่อนที่ชื่อแซน เพราะอยู่ใกล้แตงโมที่สุด
...
ส่วนที่ถามว่า บนเรือมีการถอดรองเท้าหรือไม่ คุณปอ บอกว่า ทุกคนถอดรองเท้า ซึ่งหลังเกิดเหตุ เราตกใจ ก็วนเรือกลับไปยังจุดเกิดเหตุ ระยะเวลาที่เราหาครั้งแรก 15-20 นาที ผู้ชายเอาไฟส่องค้นหา ส่วนเพื่อนผู้หญิง ก็รีบโทรแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ตนซึ่งรู้จักกับท่าเรือแห่งหนึ่ง ก็ขอให้คนออกมาช่วย และก็โทรหาโบ ทีเค เพื่อให้ติดต่อบีมมาช่วยอีกทาง
เมื่อถามถึงการดื่มแอลกอฮอล์ คุณปอ ยืนยันว่า ไม่เมา แต่มีการดื่มไวน์ เราริน 6 แก้ว แต่ใครจะดื่มมากดื่มน้อยขนาดไหนไม่แน่ใจ
นอกจากนี้ คุณปอยังบอกด้วยว่า หลังเกิดเหตุ เราประกาศให้คนที่อยู่บริเวณนั้นช่วยกันหา แต่สุดท้ายก็มีเรือเราลำเดียวที่หา ดังนั้นช่วงเกิดเหตุ ทุกคนไม่ได้หายไปไหน แต่ออกไปตามหาแตงโม มีเพียงคุณแซน ที่ช่วงหนึ่งมีจังหวะขึ้นฝั่ง ทั้งนี้ เรายืนยันจุดที่ตกได้ ถ้าจะให้ไปชี้จุด ก็สามารถทำได้
ส่วนเรื่องห้องน้ำบนเรือ คุณปอ ชี้แจงว่า มี แต่เอาไว้ใช้เก็บของ ถ้ามีคนต้องใช้ เราก็สามารถย้ายของออก แล้วเข้าไปใช้ได้ ซึ่งโดยปกติคนใช้เรือแบบนี้ ไม่ค่อยใช้ห้องน้ำบนเรือกันเท่าไร เนื่องจากส่วนมากจะขับเรือไปใกล้ๆ ซึ่งแตงโมก็เพิ่งลงเรือลำนี้เป็นครั้งแรก เราก็ไม่ทราบว่า แตงโม ต้องการเข้าห้องน้ำ
ส่วนเรื่องที่มีคนคุยกับแม่ว่าไม่ให้แม่บอกนักข่าว ตนไม่ทราบ เพราะเวลานั้นตนกลับแล้ว เนื่องจากหามาทั้งคืน และที่ไม่มาพบตำรวจ ปล่อยเวลามาทั้งวัน เพราะยอมรับกับเหตุการณ์ที่เพื่อนหายไปไม่ได้ ยังไม่มีคำตอบ ไม่รู้จะไปแจ้งความที่ไหน จึงขอกลับไปตั้งสติ และมาแจ้งตำรวจทีเดียว เราเสียใจ เรารู้สึกแย่ เป็นอะไรที่แย่มาก เพื่อนที่เราไปกินข้าวด้วยกันหายไป และเราไม่เคยคิดจะหลีกเลี่ยง หรือจะหนีไม่ให้ข้อมูล
เมื่อถามถึงเรื่องทนายตั้ม คุณปอ บอกว่า ตนไม่รู้จักทนายตั้มมาก่อน แต่เพื่อนคนหนึ่งแนะนำว่า เขาเก่ง และคิดว่าน่าจะคลายความกังวลและความกลัวของเราได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราตกใจ ทำให้เรากลัวทุกอย่าง
ส่วนเรื่องกระเป๋าแตงโม ตนไม่ทราบ แต่คิดว่าน่าจะอยู่กับเพื่อนของแตงโม
นอกจากนี้ ไฮโซปอ ยังยืนยันด้วยว่า เรือลำที่เกิดเหตุ เป็นเรือที่ถูกต้องตามกฎหมาย วันนี้ตนก็เพิ่งทราบว่า ภาษีขาดไม่กี่วัน ยังไม่ถึงเดือน เพราะเราก็ไม่ได้ใช้งานทุกวัน
"ผมเสียเพื่อนคนนึงที่หายไป ผมขอ (ไหว้) ให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนเห็นใจว่า เราไม่มีเจตนาที่จะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น (ร้องไห้) อยากให้โมกลับมา" ไฮโซปอกล่าว และยังบอกด้วยว่า หลับตา ยังช็อกอยู่ว่า เพื่อนที่มาด้วยกัน ทำไมหายไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวออกไป
เบื้องต้น มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำไฮโซปอ และเพื่อนของแตงโมเสร็จหมดแล้ว ในฐานะพยาน และยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ.