อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ปลุกพลังพนักงานราชการเฉพาะกิจ ร่วมกันขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" แก่ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการปฐมนิเทศและให้โอวาทแก่พนักงานราชการเฉพาะกิจ ตำแหน่งนักพัฒนาชุมชน จำนวน 406 คน ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting โดยมีผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้รับรับการจัดสรรกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 406 อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2564 เห็นชอบการจัดสรรกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเฉพาะกิจ ทั้งนี้กรมการพัฒนาชุมชนได้จัดสรรให้พนักงานราชการเฉพาะกิจ ทั้ง 406 คน ปฏิบัติงาน ณ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ซึ่งมีระยะเวลาปฏิบัติงาน 12 เดือน จัดทำสัญญาจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564-31 ส.ค. 2565 จำนวน 51 จังหวัด และจัดทำสัญญาจ้างตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564-30 ก.ย. 2565 จำนวน 25 จังหวัด

โดยมีกรอบภารกิจงานในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ในมิติของปัญหาทางสุขภาพ ความเป็นอยู่ การศึกษา รายได้ การเข้าถึงบริการภาครัฐ และสภาพปัญหาอื่น ๆ บูรณาการการดำเนินงานในพื้นที่เพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมกับการพัฒนาคนในทุกช่วงวัยด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ติดต่อประสานงานเชิงบูรณาการและเชื่อมโยงความช่วยเหลือครัวเรือน

...

รวมทั้งสนับสนุน กระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน สร้างเครื่องมือ คู่มือการดำเนินงาน แนวทางการปฏิบัติงาน จัดการความรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ ของชุมชน ร่วมจัดทำระบบฐานข้อมูลและระบบรายงาน และสนับสนุนฝ่ายเลขานุการศูนย์ขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัด (ศจพ.จ.)

อย่างไรก็ตาม ขอให้นักพัฒนาชุมชนทุกคนตั้งใจ ทุ่มเท แรงกาย แรงใจอย่างเต็มศักยภาพ มีธรรมะในใจ ธรรมะเป็นเครื่องค้ำจุนโลก(หิริโอตตัปปะ) ขับเคลื่อนโครงการให้สำเร็จด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และในด้านการเรียนรู้ขอให้เรียนรู้ด้วย "หัวใจนักปราชญ์" สุ จิ ปุ ลิ (ฟัง คิด ถาม เขียน) ใช้ในการพัฒนาตนเองเพื่อให้รู้ ให้เข้าใจในสิ่งที่จะต้องนำไปขับเคลื่อนร่วมกับพี่น้องประชาชน ซึ่งตรงตามหลักจะพัฒนาใครต้องพัฒนาตัวเองก่อน คือให้เป็นผู้ที่มีความรู้แตกฉาน สื่อสารนำประโยชน์สู่พี่น้องประชาชนได้อย่างดี.