รัฐบาลขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน จัดรูปแบบการทำงาน Work from Home หลังสงกรานต์ เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ "โควิด-19" พร้อมสำรวจยาเวชภัณฑ์ ยืนยันมีเพียงพออย่างน้อย 5 เดือน
วันที่ 13 เม.ย. 2564 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า แนวโน้มผู้ติดเชื้อของประเทศไทยในรอบใหม่นี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระจายตัวไปทั่วประเทศและพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนขึ้นบ้างบางจังหวัด ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง มีจำนวน 2,626 ราย พบมากที่สุดคือในกรุงเทพมหานคร เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว ร้อยละ 39 พนักงานสถานบันเทิงร้อยละ 31 ส่วนที่จังหวัด ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ และสระแก้ว มีผู้ติดเชื้อที่เป็นนักท่องเที่ยวสูงกว่าร้อยละ 50 ส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้อในผู้สัมผัสตามมา
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคในวงกว้าง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยการให้แต่ละจังหวัดตรวจ คัดกรอง ค้นหา ผู้ติดเชื้อ เพื่อจำกัดวงและลดการแพร่ระบาด เฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมการระบาด โดยการ แยก/กัก/สังเกต ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ โดยผู้ติดเชื้อ 1 คน มีโอกาสทำให้เกิดผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้ประมาณ 5 คน มีอัตราการติดเชื้อที่ประมาณร้อยละ 5-7
โดยมาตรการสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้ทำการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วันอย่างเคร่งครัด ตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง (ครั้งแรกเมื่อทราบว่าเป็นผู้สัมผัส เมื่อผลเป็นลบให้ตรวจครั้งที่ 2 ใน 7 วันต่อมา) สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และสังเกตอาการของตนเอง หากป่วยให้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้รับรักษาตามระบบ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำให้สังเกตอาการตนเอง หลีกเลี่ยงคนหมู่มาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากป่วยให้พบแพทย์ ห้ามไม่ให้เดินทางข้ามจังหวัด
...
ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งให้หน่วยงานราชการทุกแห่งจัดรูปแบบการทำงานที่บ้าน Work from Home อย่างเต็มรูปแบบช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ และกระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมือหน่วยงานภาคเอกชนร่วมมือกับภาครัฐ จัดรูปแบบการทำงานดังกล่าว อย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยในเฉพาะในจังหวัดเสี่ยง เพื่อช่วยลดและควบคุมการแพร่เชื้อโควิด-19
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์ไว้ว่า หากดำเนินการมาตรการปิดสถานเสี่ยง ร่วมกับลดกิจกรรมรวมตัว มีมาตรการองค์กร ล็อกดาวน์เฉพาะจุด และประชาชนทุกคนร่วมมือกันเข้มพฤติกรรมส่วนบุคคล จะทำให้มีผู้ติดเชื้อต่อวันต่ำกว่า 100 คน ในระยะ 1 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการสำรวจ ยาและเวชภัณฑ์คงคลังทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรับมือหากเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ได้แก่ หน้ากาก N95 มีจำนวน 3,188,721 ชิ้น เพียงพอสำหรับ 1 ปี หน้ากากอนามัยทางการแพทย์จำนวน 121,360,699 ชิ้น เพียงพอสำหรับ 9 เดือน และชุดป้องกัน Cover All เพียงพอสำหรับ 5 เดือน ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ คงเหลือ 575,873, เม็ด เพียงพอสำหรับ 5-6 เดือน นอกจากนี้ องค์การเภสัชกรรมได้สั่งซื้อเพิ่มอีก 500,000 เม็ด เพื่อให้เพียงพอต่อสถานการณ์.