ผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ไทยกลับมาหลอนเป็นระยะ ล่าสุดยอดติดเชื้อพุ่งไป 84 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เป็นหญิงวัย 29 ปี ใน กทม.เป็นดาวน์ซินโดรมและมีโรคประจำตัวหลายโรค คาดติดเชื้อในครอบครัว แต่ตรวจพบเชื้อหลังเสียชีวิต ขณะที่ กทม.จ่อพบผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์ใหม่จากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ-เอกมัย รอง ผบช.น.สั่งตรวจสอบ พร้อมดำเนินคดีทันทีหากพบฝ่าฝืนกฎหมาย กำชับท้องที่คุมเข้มช่วงสงกรานต์ ด้านนายกฯฟุ้ง เม.ย.กระจายวัคซีน 8 แสนโดไปยังกลุ่มเป้าหมาย 77 จังหวัด ส่วนการจัดงานสงกรานต์ปีนี้ คาดคึกคักแบบนิวนอร์มอล
หลังจากที่จีนส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) “ซิโนแวค” ลอตสองให้ไทย 8 แสนโดส เมื่อปลาย มี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดทั่วประเทศเริ่มจัดฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามเป้าหมาย โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 3 เม.ย.เวลา 07.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่องผ่านเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ถึงความคืบหน้าการบริหารกระจายวัคซีนโควิด-19 ที่แบ่งเป็นวัคซีนซิโนแวคลอตแรก 2 แสนโดส และแอสตราเซเนกา ประมาณ 1.1 แสนโดส เริ่มฉีดเข็มแรกตั้งแต่ 28 ก.พ.โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. มีผู้ได้รับการฉีดเข็มที่ 1 แล้ว 158,491 คน และฉีดเข็ม 2 แล้ว 33,248 คน ในจำนวนนี้มีผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์ เช่น เวียนศีรษะ แน่นหน้าอก มีผื่น เพียง 4 คน ส่วนผู้ที่มีข่าวว่าเสียชีวิตนั้นเนื่องจากมีโรคอื่น มีโรคประจำตัวหลายโรคและต้องติดตามต่อไป ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนจะครอบคลุมพื้นที่ระบาดหรือเสี่ยงแพร่เชื้อสูง 13 จังหวัด และเดือน เม.ย.จะกระจายวัคซีนซิโนแวคอีก 8 แสนโดส ไปยังกลุ่มเป้าหมาย 77 จังหวัด โดยจัดสรร 3 แสนโดส เพื่อควบคุมพื้นที่ระบาด 6 จังหวัด อีก 3 แสนโดส เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจังหวัดท่องเที่ยวและจังหวัดชายแดน และ 2 แสนโดส กระจายไป 55 จังหวัด
...
นายกฯยังย้ำด้วยว่าวัคซีนทุกเจ้าทั่วโลกมีการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังไม่มีบริษัทผู้ผลิตรายใดสามารถรับประกันผลข้างเคียงในระยะยาวได้ แต่จะรับรองประสิทธิภาพจากผลวิจัยในห้องทดลองเท่านั้น เป็นการรับประกันระยะสั้น ดังนั้น รัฐบาลทุกประเทศจำเป็นต้องเข้าไปเป็นผู้กำกับดูแลการนำเข้าผ่านหน่วยงานวัคซีนของประเทศก่อน เป็นเหตุผลว่ายังไม่เปิดให้เอกชนสั่งซื้อได้โดยตรง จะต้องผ่านหน่วยงานของรัฐเท่านั้น และล่าสุดคณะกรรมการอาหารและยาอนุมัติขึ้นทะเบียนให้ใช้อย่างถูกกฎหมายแล้ว 3 ราย คือ ซิโนแวค แอสตราเซเนกา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
นอกจากนี้ นายกฯกล่าวถึงเทศกาลสงกรานต์มีวันหยุดยาว วันที่ 10-15 เม.ย.รวม 6 วันว่า อยากให้เป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัย รดน้ำดำหัว ขอพร ขอขมา เพื่อความเป็นสิริมงคลและชาวพุทธเข้าวัดทำบุญตักบาตร สำหรับกิจกรรมรัฐบาลได้รณรงค์ “สงกรานต์วิถีใหม่” สืบสานวัฒนธรรมไทย ท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอลตามมาตรการสาธารณสุข และเตรียมตัวให้พร้อมในการเดินทาง สำคัญคือเมาไม่ขับ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินสงกรานต์ปีนี้จะคึกคัก เพราะภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนเพื่อให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวในประเทศ 3.2 ล้านคน สร้างรายได้หมุนเวียน 1.2 หมื่นล้านบาท และ ททท.ยังมีแคมเปญ เช่น มหาโปรท่องเที่ยวไทย อะเมสซิ่งยิ่งกว่าเดิม จัดโปรโมชันส่วนลดทั้งทัวร์ที่พักและอาหาร ส่วนสายการบินก็ร่วมมอบส่วนลดด้วย
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เผยข้อมูล ณ วันที่ 3 เม.ย.ว่า มีผู้ป่วยใหม่ 84 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยในประเทศ 69 คน จำแนกตามพื้นที่ กทม.เยอะสุดถึง 32 คน ตามด้วยสมุทรสาคร 12 คน สุพรรณบุรี 9 คน นครปฐม 5 คน นนทบุรี 4 คน สมุทรปราการ 4 คน นราธิวาส ชลบุรี และตาก จังหวัดละ 1 คน และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 15 คน มาจากมาเลเซีย 3 คน จีน 3 คน บาห์เรน 2 คน นอกนั้นประเทศละ 1 คน ได้แก่ ฝรั่งเศส อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตุรกี สวิตเซอร์แลนด์ บังกลาเทศ และเช็กเกีย ทำให้ไทยมียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 29,031 คน รักษาหายป่วยเพิ่ม 62 คน รวมรักษาหายป่วยสะสม 27,668 คน
ขณะเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี อยู่ในกรุงเทพฯ มีโรคประจำตัว หัวใจโต ลิ้นหัวใจรั่ว และดาวน์ซินโดรม มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า (บิดาและมารดา) โดยมีไทม์ไลน์ วันที่ 21 มี.ค.เริ่มมีอาการไอ มีไข้ มีน้ำมูก หายใจลำบาก เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด ผลตรวจไม่พบเชื้อ วันที่ 25 มี.ค.ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยมากขึ้น วันที่ 1 เม.ย.ผู้ป่วยอาการแย่ลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ได้นำเชื้อไปตรวจอีกครั้งผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 ทำให้ยอดรวมเสียชีวิตสะสม 95 คน
ต่อมา ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยกรณีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานบันเทิงในย่านทองหล่อและคลองตันว่า สั่งการให้ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ และ พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.คลองตัน ตรวจสอบไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อและตรวจสอบสถานบันเทิงว่าเปิดให้บริการเป็นไปตามข้อกำหนดของ กทม.หรือไม่ หากมีการฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที นอกจากนี้ยังกำชับให้ตำรวจในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดสถานบันเทิงช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมโรคอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม.แจ้งกรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปเที่ยวสถานบันเทิง 3 แห่ง รวม 13 คน ได้แก่ Krystal Club ทองหล่อ บลาบลาบาร์ และเบียร์เฮ้าส์ ย่านทองหล่อ-เอกมัย ขอความร่วมมือประชาชนที่มีความเสี่ยงจากกรณีเข้าไปสถานที่ดังกล่าวตามวันดังนี้ วันที่ 25-30 มี.ค.2564 Krystal Club ทองหล่อ วันที่ 27 มี.ค.เป็นต้นไป ที่บลาบลาบาร์ และเบียร์เฮ้าส์ ย่านทองหล่อ-เอกมัย ขอให้เข้าไปทำแบบประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองได้ที่เว็บไซต์ http://bkkcovid19.bangkok.go.th/ เพื่อเข้าระบบคัดกรอง รับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวอย่างถูกวิธี และรับการรักษาอย่างทันท่วงทีหากมีการติดเชื้อ
...
ส่วน จ.นครปฐม นอกจากพบผู้ติดเชื้อ 5 คน ตามรายงานของ ศบค.แล้ว วันเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่อีก 3 คน นับเป็นผู้ป่วยรายที่ 179-181 ของจังหวัด เป็นชายอายุ 19 ปี อยู่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล เกี่ยวข้องกับร้านเดอะเลาจน์ ศาลายา (ซอยตั้งสิน) ส่วนอีกสองคนเป็นหญิงอยู่ ต.สนามจันทร์ อ.เมือง อายุ 50 และ 58 ปี เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 178 ของจังหวัด ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องกรณีร้านเดอะเลาจน์ เช่นกัน เท่ากับมีผู้ติดเชื้อเกี่ยวข้องกับร้านเดอะเลาจน์ขณะนี้แล้ว 9 คน แบ่งเป็นอยู่ใน จ.นครปฐม 7 คน นนทบุรี 1 คน และ กทม. 1 คน
วันเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 6 คน เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานี ผู้ป่วยใหม่เป็นกลุ่มนักโทษ 5 คน และผู้คุม 1 คน มาจากเรือนจำกลางนราธิวาส อายุระหว่าง 20-42 ปี เดินทางมาร่วมกิจกรรมประกวดผลงานด้านการต่อต้านยาเสพติดในส่วนของกรมราชทัณฑ์ ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา ระหว่างเวลา 07.00-17.00 น.จากการสอบสวนโรคระบุว่า เรือนจำสุราษฎร์ธานี ได้รับการประสานจากเรือนจำกลางนราธิวาสว่า มีผู้ติดเชื้อในเรือนจำและมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเดินทางมาร่วมกิจกรรม 8 คน จึงนำทั้งหมดมาตรวจหาเชื้อ พบผลเป็นบวก 6 คน อีก 2 คน อยู่ระหว่างการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 และกักตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานีแล้ว รวมถึงตรวจหาเชื้อผู้เสี่ยงสูง 135 คน ในเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ทุกคนมีผลเป็นลบ พร้อมกันนี้ ขอให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมประกวดผลงานและแสดงนิทรรศการ ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า ในวันที่ 2 เม.ย.ให้แยกตัวสังเกตอาการถึงวันที่ 16 เม.ย. หากมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
...
สำหรับการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ และเริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุข โดยที่ รพ.หนองคาย นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล รอง ผวจ.หนองคาย ได้นำบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการด่านหน้า และ อสม. ฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 โดยรอง ผวจ.หนองคาย กล่าวว่า มั่นใจในวัคซีนและไม่กลัว อยากให้ทุกคนปลอดภัยจากโรคโควิด-19 หลังจากฉีดวัคซีนแล้วไม่มีอาการข้างเคียงแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.นครสวรรค์ เป็นสักขีพยานและให้กำลังใจในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มแรก มี นพ.อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ นำบุคลากรด้านสาธารณสุข 500 คน เข้ารับการฉีดวัคซีน จากนั้นในวันที่ 7-8 เม.ย.จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับ อสม.อีก 500 คน ที่ศูนย์ชีวนันท์ รพ.สวรรค์ประชารักษ์
ขณะที่ใน กทม.มีการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้ค้าและผู้ช่วยค้าที่เป็นคนไทยในตลาดในเขตบางขุนเทียน ที่วัดกำแพง นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัด กทม. กล่าวว่า กทม.เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เขตบางขุนเทียน จำนวน 22 ตลาด ประมาณ 1,400 คน ส่วนวันรุ่งขึ้นฉีดวัคซีนให้กับผู้ค้าและผู้ช่วยค้าที่เป็นคนไทยในตลาดในเขตจอมทอง จำนวน 19 ตลาด ประมาณ 1,200 คน วัคซีนที่นำมาฉีดมีทั้งซิโนแวคและแอสตราเซเนกา ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบผู้ที่มีอาการรุนแรง
ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดรวม ณ วันที่ 3 เม.ย.อยู่ที่กว่า 130.8 ล้านคน เสียชีวิตรวม 2.85 ล้านคน ขณะเดียวกันมีรายงานของหน่วยงานกำกับดูแลทางการแพทย์ของอังกฤษ (MHRA) กรณีพบอาการลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาว่า จนถึงวันที่ 24 มี.ค.มีรายงานว่าผู้ที่รับวัคซีนแอสตราฯ 30 คน ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 7 คน หลังจากอังกฤษฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กับพลเมืองไปแล้ว 18.1 ล้านโดส แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือผลข้างเคียงของวัคซีน โดยผู้มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน 22 ใน 30 คนดังกล่าว มีอาการหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน ซึ่งเป็นภาวะที่หายาก และยังพบปัญหาการแข็งตัวของเลือดประเภทอื่น ควบคู่ไปกับระดับเกล็ดเลือดต่ำในคนไข้ 8 คน กระนั้น ดร.จูน เรน หัวหน้าผู้บริหาร MHRA ยังยืนยันการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียง และสนับสนุนให้ประชาชนฉีดวัคซีนต่อไป
...
นอกจากนี้ ในอังกฤษยังมีรายงานอาการหลอดเลือดดำในสมองอุดตันในผู้ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค 2 คน จากจำนวนผู้ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ฯ กว่า 10 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริง แต่เป็นทราบกันดีว่าไวรัสโคโรนา 2019 มีความเชื่อมโยงกับการแข็งตัวอย่างผิดปกติของเลือด อาจทำให้เกิดลิ่มเลือด ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในผู้ป่วยโควิด-19