นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบาย “คนไทยทุกครอบครัว มีหมอประจำตัว 3 คน” ครั้งที่ 2/2564 ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข มีนโยบายให้ประชาชนมีหมอ 3 คน เป็นที่ปรึกษา ดูแลสุขภาพประจำครอบครัว สร้างความรอบรู้ในการดูแลส่งเสริมสุขภาพตนเองและครอบครัว โดยหมอคนที่ 1 คือ อาสาสมัคร สาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมอประจำบ้าน หมอคนที่ 2 หมอสาธารณสุข ในหน่วยบริการปฐมภูมิ อาทิ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สถานพยาบาลใกล้บ้านใกล้ใจ และหมอคนที่ 3 หมอครอบครัว คือ แพทย์ในโรงพยาบาล ขณะนี้มีครอบครัวที่มีหมอ 3 คนแล้ว 9,288,783 ครอบครัว ดูแลผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง 555,129 คน และผู้สูงอายุติดสังคม 8,516,783 คน

นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายให้ทุกคนในประเทศได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามความสมัครใจ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เพิ่มบทบาท 3 หมอ บูรณาการการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำความเข้าใจเรื่องการรับวัคซีนโควิด-19 โดยหมอคนที่ 1 อสม.หมอประจำบ้าน ลงพื้นที่ให้ความรู้ ทำความเข้าใจในเรื่องวัคซีนโควิด-19 พร้อมสำรวจและติดตามกลุ่มเป้าหมายให้เข้าถึงการรับวัคซีน หมอที่ 2 หมอสาธารณสุขช่วยดำเนินการร่วมกับ อสม.หมอประจำบ้าน และประสานกับหมอคนที่ 3 หมอครอบครัวที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการฉีดวัคซีน และติดตามอาการไม่พึงประสงค์ ผ่านไลน์ “หมอพร้อม” และนอกจากนี้ ได้มอบให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จัดระบบฐานข้อมูล 3 หมอ รายงานแบบเรียลไทม์ ให้ได้ข้อมูล
ที่เป็นปัจจุบัน ในระบบ http://3doctor.hss.moph.go.th และนำไปใช้ในการบูรณาการทำงานต่อไป สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เน้นการให้ความรู้เรื่องวัคซีนได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียงที่ต้องดูแลต่อเนื่อง กลุ่ม
ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้น ผู้ที่มีโรคประจำตัว คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังระยะ 5 โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการให้เคมีบำบัด รังสีบำบัด และภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน.

...