สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจ และขอคำปรึกษาเข้ามาในเพจทนายเจมส์ LK เป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการไปขอกู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง โดยที่ผู้กู้จะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้กู้ รวมถึงอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์ของผู้กู้ ซึ่งในขณะที่ผู้กู้ยืนยันให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลนั้น ผู้กู้ไม่ทราบว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวมีจุดประสงค์ในการเข้าถึงข้อมูล เพื่ออะไร แต่เพราะเดือดร้อนและอยากได้เงินมาใช้หมุนเวียนก่อน จึงยินยอมให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลได้

หลังจากนั้น หากผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหน้าที่ของแอปพลิเคชันดังกล่าวก็จะโทรศัพท์ไปตามเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ในโทรศัพท์ของผู้กู้ เพื่อทวงหนี้ ผลที่ตามมา คือ ไม่ว่าจะเป็นญาติสนิท มิตรสหาย เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และคนอื่นๆ ต่างได้รับรู้เรื่องที่ผู้กู้เงินผิดนัดชำระหนี้กันอย่างทั่วถึง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับทุกคน และทำให้ผู้กู้อับอายขายหน้า เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งมีผู้เสียหายจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวลักษณะเดียวกันนี้เป็นจำนวนมาก

มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ 2 ประเด็น คือ การกระทำดังกล่าวนั้น จะมีความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้หรือไม่

ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ในหมวดที่ว่าด้วยความผิดอันสืบเนื่องมาจากการเข้าถึงระบบ/ข้อมูลของผู้อื่นโดยมิชอบ ตามมาตรา 5 ถึงมาตรา 8 นั้น มีองค์ประกอบความผิด รวมถึงมีโทษจำคุกและโทษปรับแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงเป็นเรื่องๆ ไป แต่องค์ประกอบสำคัญในการกระทำความผิดทางอาญานั้น คือ เจตนา

การที่เจ้าหน้าที่หรือแอปพลิเคชันให้กู้ยืมเงินเข้าถึงระบบหรือข้อมูลของผู้กู้ โดยได้รับอนุญาตจากผู้กู้ ซึ่งผู้กู้เป็นผู้ที่ยืนยันอนุญาตให้แอปพลิเคชันให้กู้ยืมเงินเข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์ของผู้กู้เอง ดังนั้น การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ของแอปพลิเคชันให้กู้ยืมเงินที่เข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์ของผู้กู้จึงขาดเจตนาในการกระทำความผิด การเข้าถึงระบบหรือข้อมูลของผู้กู้จึงถือว่า ไม่มีความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

...

ส่วนกรณีที่ผู้กู้ไม่อนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์ของผู้กู้ แต่การที่เจ้าหน้าที่หรือแอปพลิเคชันให้กู้ยืมเงินแอบเข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์ของผู้กู้ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 5 ถึงมาตรา 8 ได้ แต่จะมีความผิดในส่วนใดนั้นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นเรื่องๆ ไป

ระวังยืมเงินผ่านแอปฯ ถูกดูดข้อมูลเบอร์โทรศัพท์

นอกจากนี้ การที่เจ้าหน้าที่ของแอปพลิเคชันให้กู้ยืมเงินโทรศัพท์ไปทวงหนี้กับบุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้นั้น มีความผิดตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ มาตรา 8 ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และหากมีการทวงถามหนี้ในลักษณะเข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 11 เช่น ข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายหรือทรัพย์สิน ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ จึงเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ที่ต้องการที่จะกู้ยืมเงินบุคคลอื่นหรือแอปพลิเคชันหรือต้องการกู้ยืมเงินนอกระบบ ควรจะคำนึงถึงผลที่จะติดตามมาด้วย หากท่านไม่สามารถหาเงินมาคืนให้กับเจ้าหนี้ได้ ผลจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการกู้ยืมเงินนอกระบบที่มีดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ แม้จะมีกฎหมายคุ้มครองลูกหนี้ก็ตาม แต่กฎหมายอาจจะเข้าช่วยเหลือท่านไม่ทันการณ์ โดยเฉพาะเหตุการณ์เฉพาะหน้า ท่านอาจจะได้รับความเดือดร้อน เสียหายจากการทวงหนี้โหดก็เป็นไปได้ครับ

สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ

Instagram: james.lk