ถุงมือยาง ถือเป็นโปรดักส์แชมเปียนในกลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปยางของบ้านเรา เพราะในปีที่ผ่านมา ทั่วโลกมีความต้องการใช้ถุงมือยางสูงถึงปีละ 200,000 ล้านชิ้น หรือ 1 แสนล้านคู่

ยิ่งมาเจอสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด–19 ความต้องการถุงมือยางธรรมชาติมีทิศทางที่ดีขึ้น คาดว่าปีนี้ทั่วโลกจะมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 แสนล้านชิ้น

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้จัดประชุมทำความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) หาแนวทางการส่งเสริม การลงทุนในกิจการยางพารา เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบกิจการยาง และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ ในการผลักดันเรื่องการตลาด การลงทุน และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผลิตภัณฑ์ยางของไทย

รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้แนวทาง...การทำตลาดถุงมือยางธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมเกษตรกรชาวสวนยาง

รัฐบาลจะต้องใช้น้ำยางพาราของไทย นำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตถุงมือยางพาราแท้ 100% รวมถึงกำหนดมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้กับต่างชาติที่มีความต้องการตั้งโรงงานผลิตถุงมือยางธรรมชาติในบ้านเรา เน้นจะต้องใช้น้ำยางข้นของไทยเป็นวัตถุดิบเท่านั้น

“ส่วนกรณีที่มีการทำถุงมือยางไม่ได้มาตรฐานแล้วส่งออกไปอ้างชื่อเมดอินไทยแลนด์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง กยท.จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกัน เข้มงวด ตรวจจับ และดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายถุงมือที่ไม่ได้คุณภาพและมาตรฐาน เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ผลิตและส่งออกของไทยให้ได้มาตรฐานสากลโลก” นาย
ณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท.ว่าอย่างนั้น

นอกจากนี้ จะต้องผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตถุงมือยางธรรมชาติของโลก หากมีข้อสงสัยในเรื่องมาตรฐานสินค้าหรือร้องเรียน กรณีพบถุงมือไม่ได้มาตรฐาน แจ้งผ่านเว็บไซต์สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย www.trgma.org  หรือ e-mail : thairubberglove@gmail.com 

...

สะ–เล–เต