พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงตั้งพระราชหฤทัยให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นลำดับแรก และทรงพระราชทานพระราชดำรัสเสมอว่า...น้ำคือชีวิต

ดั่งพระราชดำรัสความตอนหนึ่ง “...หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้า ไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้...”

เมื่อน้ำคือชีวิต กรมชลประทานจึงให้ความสำคัญกับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นลำดับต้น โดยได้สืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทานให้ข้อมูลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเดิมที่มีอยู่ กรมชลประทานได้ดำเนินการต่อยอดเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำ สร้างระบบส่งน้ำ ระบบกระจายน้ำการจัดปฏิรูปที่ดินเพื่อใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริใหม่ทั้งที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง และยังไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายเพื่อให้บรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรได้ตามพระราชประสงค์

ปัจจุบันมีโครงการอันมาจากพระราชดำริในความรับผิดชอบของกรมชลประทานทั้งสิ้น 3,432 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 3,178 โครงการ รวมปริมาณความจุเก็บกัก 6,743 ล้านลูกบาศก์เมตร ราษฎรได้รับประโยชน์รวม 581,800 ครัวเรือน

โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ อย่าง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนนฤบดินทรจินดา หรือโครงการขนาดกลาง เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยรี อ่างเก็บน้ำห้วยหวด อ่างเก็บน้ำแม่แคม หรือแม้แต่โครงการขนาดเล็ก เช่น ฝายต่างๆ ล้วนสามารถแก้ไขปัญหาน้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม และที่สำคัญยังก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน ประเทศชาติเป็นส่วนรวม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

...

เพราะเมื่อมีน้ำแล้ว ทุกอย่างจะสามารถขับเคลื่อนชีวิต ขับเคลื่อนประเทศชาติ ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ได้อย่างยั่งยืน.

สะ-เล-เต