ประเดิมเลยงานแรก กับบทพิสูจน์ฝีมือและกึ๋นของ "แม่ทัพป้ายแดง" อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ในสนามเลือกตั้งซ่อมเขต 5 สมุทรปราการ หลัง กกต.เคาะวันหย่อนบัตร อาทิตย์ที่ 9 ส.ค.นี้

สมรภูมินี้น่าสนใจไม่น้อย ถือเป็นเป็นศึกห้ำหั่นระหว่างขั้วรัฐบาล ภายใต้ธง "พลังประชารัฐ" เจ้าของพื้นที่เดิม และขั้วฝ่ายค้าน 2 พรรค อย่าง "เพื่อไทย" และ "ก้าวไกล" ที่ช่วงหลังขบเหลี่ยมเฉือนคมกันอยู่บ่อยๆ ถึงขั้นสาวไส้กันเองกลางสภามาแล้ว

โดยแชมป์เก่า "พลังประชารัฐ" จะส่ง นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก หรือกรุงศรีวิไล แชมป์เก่า กลับไปป้องกันแชมป์อีกครั้ง หลังโดนพิษใบเหลืองเล่นงาน จากกรณีคนใกล้ชิดมอบพวงหรีด-ใส่ซองช่วยงานศพ

ขณะที่ "เพื่อไทย" จะส่ง นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ 3 สมัย ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย (ทรท.) เรืองอำนาจ หวัง "ล้างตา" ท้าชิงพื้นที่คืน หลังจากเลือกตั้งใหญ่รอบที่แล้ว เข้าวินมาแค่อันดับ 2 เท่านั้น

ด้าน "ก้าวไกล" ร่างแปลง "อนาคตใหม่" พรรคคู่ขนาน "คณะก้าวหน้า" คราวนี้เปลี่ยนหมาก ส่งคนพื้นที่ คาดมีลุ้นกว่า ให้ นายอิศราวุธ ณ น่าน ลงชิงชัย แทนหน้าเดิม นายตรัยวรรธน์ อิ่มใจ ซึ่งรอบที่แล้วเข้าวินมาเป็นอันดับ 3 และรอบนี้ไม่ผ่านการคัดเลือกจากพรรค จนเจ้าตัวต้องประกาศยุติบทบาท และรีไทร์ตัวเองหลังจากผิดหวัง

"เสี่ยคลอสเตอร์"

...

ถ้ามองตามรูปการณ์ฟากฝ่ายค้าน "เพื่อไทย" และ "ก้าวไกล" ถือเอาศึกครั้งนี้เป็น "ไฟต์ล้างตา" เพราะหากเปรียบเทียบคะแนนครั้งที่แล้ว "พลังประชารัฐ" เข้าวินปาดหน้า "เพื่อไทย" ไปกว่า 8 พันคะแนน และแซงหน้า "อนาคตใหม่" แค่หลักหมื่นนิดๆ โดยผลเลือกตั้งใหญ่ ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 "พลังประชารัฐ" โกยแต้มไปเพียง 41,745 ส่วน "เพื่อไทย" ได้ 33,007 และ "อนาคตใหม่" คว้าไป 31,430 

ถ้าวัดกันที่คะแนนดิบเพียวๆ จากการเลือกตั้งในรอบที่แล้ว เอาคะแนน 2 พรรคฝ่ายค้าน "เพื่อไทย-อนาคตใหม่" รวมกันจะมีกว่า 6 หมื่นคะแนน มากกว่า "พลังประชารัฐ" อยู่กว่า 2 หมื่นคะแนน คิดกันง่ายๆ หากศึกนี้ "ก้าวไกล" ยอมถอยปล่อย "เพื่อไทย" ล้างตา "พลังประชารัฐ" กันแบบเดี่ยวๆ ก็อาจมีลุ้นทวงพื้นที่คืน เพราะชาวปากน้ำที่เบื่อรัฐบาล ยี้ปากเมื่อได้ยินชื่อ "พลังประชารัฐ" อาจหันมาเจอผู้สมัครทางเลือกเพียงคนเดียวจากซีกฝ่ายค้าน ดังนั้นก็อาจเป็นไปได้ที่จะเทคะแนนให้ "เพื่อไทย" มีลุ้นหักด่านแชมป์เก่าเหมือนกัน แต่ความจริงศึกนี้ไม่ใช่ "พันธมิตร" เกื้อหนุน เพราะทั้ง 2 พรรค ต่างส่งผู้สมัครลงตัดแต้มกันเองทั้งคู่

"เจ้าแม่เมืองกรุง"

มองแล้วฝั่ง "เพื่อไทย" อาจมีเคือง "ก้าวไกล" อยู่ไม่น้อย เพราะภายใต้การนำของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ก็คงอยากพิสูจน์ฝีมือให้คนในพรรคเห็น หลังจากสนามเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาปราชัยเรียบย่อยยับทั้งที่ "ขอนแก่น" และ "กำแพงเพชร" ซึ่งหากมองเกมภายในแล้ว ทั้ง นายสมพงษ์ และ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังไม่ได้รับการยอมรับ จากคนในพรรคเท่าที่ควร ดังนั้นจึงอยากสร้างผลงาน "กู้หน้า" เพิ่มเรตราคาให้ตัวเองบ้าง

"ก้าวไกล" หวังหักด่านปากกาเซียน

ด้าน "ก้าวไกล" ภายใต้การนำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคคนหนุ่ม ก็ดูฮึกเหิมตามประสาคนหนุ่ม-สาว มาคราวนี้ฝันไกลหน่อย แอบลุ้นหักด่าน 2 พรรคใหญ่ หลังจากฟังเสียงสัมภาษณ์ในวันจับเบอร์เลือกตั้งซ่อมสนามปากน้ำ เมื่อ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ดูมั่นอกมั่นใจ หวังถึงขั้นปักธงยึดเมืองปากน้ำเพิ่มอีก 1 เก้าอี้

...

ข้ามมาดูกันที่สนามเลือกตั้งท้องถิ่นกันบ้าง หลังจากผู้มีอำนาจส่งสัญญาณแว่วๆ เริ่มที่ค่าย "เพื่อไทย" มีกระแสข่าวเตรียมวางโครงสร้างพรรคใหม่ เพื่อรักษาแบรนด์เอาไว้ เพราะประชาชนฐานรากรู้จักพรรค "เพื่อไทย" มากกว่าพรรคที่เล็งจะจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยให้จับตาดูว่ายังมีที่ว่างให้คนพ่ายศึก คอนโทรลลูกพรรคอีกหรือไม่ ซึ่งระยะหลังเกิดคำถามถึงความกลมเกลียวที่ นายสมพงษ์ และ คุณหญิงสุดารัตน์ พยายามโชว์ให้สังคมเห็น จึงเป็นแค่หน้าฉากที่ปกปิดความจริงไม่มิด และเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบสนามเลือกตั้งท้องถิ่น

"คณะก้าวหน้า" ลุยปักธง อปท.

ข้ามมาที่ทีมงาน "คณะก้าว" ที่มี "นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" และ "นายปิยบุตร แสงกนกกุล" ถือธงนำทัพ ต่างเดินเครื่องเปิดฟลอร์กันตั้งแต่ไก่โห่ จัดโรดโชว์ทั่วทุกภาค ขายของเต็มที่ เปิดเกมรุกหวังตีหัวเมือง ตจว. ตั่งแต่ฟ้าไม่สาง ส่วนสนามท้องถิ่นเมืองหลวง ปล่อยมือให้ "ก้าวไกล" ของ "หนุ่มพิธา" เป็นตัวเอก ช่วยกันเดินเกมยุทธศาสตร์ "ชนบทล้อมเมือง" หวังปักธงเป็นแรงหนุนให้การเมืองระดับชาติของกลุ่มตัวเองเข้มแข็งขึ้น

...

แต่ความจริง แนวทางการต่อสู้ในสนามท้องถิ่นของทั้ง 2 ฝ่าย คงจะไม่เหมือนเวทีระดับชาติ เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่น หากพรรคฝ่ายค้านจะห้ำหั่นกันเอง ในการส่งผู้แทนเพียงคนเดียว จำเป็นอย่างยิ่งที่อีกฝ่ายจะต้องสร้างความโดดเด่นให้มากกว่าอีกฝ่าย ไม่เช่นนั้นถ้าต่างฝ่ายต่างเล่น ก็อาจเพลี่ยงพล้ำฝ่ายตรงข้ามได้ ดังนั้น "เพื่อไทย" และ "ทีมงานไพร่ห้าหมื่นล้าน" ซึ่งมีคะแนนสูสีกันในหลายพื้นที่ เชื่อว่าตอนนี้การตัดสินใจเฟ้นหาตัวผู้สมัครของทั้ง 2 ฝ่าย อาจจะต้องมีการพูดคุยตกลงกัน เพื่อไม่ให้เกิดการตัดคะแนนกันเอง ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดทางอุดมการณ์ของทั้ง 2 ขั้ว

"จับตาดู" หลังจบศึกเลือกตั้งซ่อมเมืองปากน้ำ การ "ขบเหลี่ยม" ของ 2 ขั้วฝ่ายค้าน จะมีให้เห็นในสนามท้องถิ่นหรือไม่.