ให้แข่งกีฬาได้แล้ว ห้ามคนไปชม

ดื่มในร้านโอเค ห้ามเล่นดนตรี มีตกรี๊ด-ก็บ่ได้

4 กระทรวงเตรียมสรุปโครงการจับคู่ประเทศท่องเที่ยว travel bubble เสนอ ศบค. 17 มิ.ย. ด้าน กทม.ปลดล็อกโควิดเฟส 4 รวม 11 สถานที่ อาทิ อนุญาตโรงแรมโรงหนังจัดแสดงคอนเสิร์ตได้แต่ต้องขายตั๋วนั่ง ไฟเขียวดื่มเหล้าในร้านได้แต่ยังห้ามเล่นดนตรีสด ตู้เกมตู้หยอดเหรียญถูกกฎหมายเปิดได้เช่นกัน ส่วนโรงเรียนในสังกัด 437 โรงเรียน พร้อมเปิดเรียน 1 ก.ค. ขณะที่ผับบาร์คาราโอเกะ สนามชนไก่ชนโคปลากัดยังปิดยาว ดุสิตโพลเผยเชียงใหม่ติดท็อป 1 ใน 5 จังหวัดคนอยากเที่ยวหลังคลายล็อก รวมทั้งผลสำรวจเกินครึ่งยังไม่อยากให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาตอนนี้

หลังรัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-30 เม.ย.63 พร้อมประกาศเคอร์ฟิว ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานทั่วประเทศในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.63 เพื่อสู้กับเชื้อร้ายอุบัติใหม่ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พร้อมให้ความรู้ ประชาชนในการป้องกันเชื้อไวรัสควบคู่ไปด้วย ก่อนคลายล็อกกิจการกิจกรรมเป็นระยะ รวมทั้งการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งละ 1 เดือน พร้อมปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23.00-03.00 น. โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เตือนเป็นระยะการ์ดอย่าตก ให้กิจกรรมแต่ละชนิดที่ได้รับการผ่อนปรนเข้มข้นเรื่องการใช้มาตรการสูงสุดในการสกัดเชื้อ โดยเฉพาะการใช้แพลตฟอร์มและโหลดแอปพลิเคชัน“ไทยชนะ” เช็กอินเช็กเอาต์ตามห้างร้านสถานที่เพื่อประโยชน์การสืบสวนติดตามโรค การสวมแมสก์ การเว้นระยะห่างทางสังคม ล่าสุดรัฐบาลประกาศผ่อนปรนกิจการกิจกรรมเป็นเฟสที่ 4 อาทิ ให้เปิดโรงเรียน จัดสัมมนา จัดเลี้ยง งานคอนเสิร์ต และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้แล้ว รวมทั้งการทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.63

กทม.ปลดล็อกเฟส 4 รวม 11 สถานที่

ที่ศาลาว่าการ กทม. เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครว่า ที่ประชุมได้พิจารณาผ่อนปรนการเปิดกิจการและกิจกรรมเพิ่มเติมในระยะที่ 4 เพิ่มอีก 11 สถานที่ ประกอบด้วย 1.การใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ที่เป็นโรงเรียนนอกระบบประเภทกวดวิชา โรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ สถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนหลักสูตรนานาชาติ โรงเรียนที่มีนักเรียนรวมกันไม่เกิน 120 คน ส่วนโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 437 โรงเรียน พร้อมเปิดเรียนวันที่ 1 ก.ค.นี้

จัดแสดงคอนเสิร์ตแต่ต้องตั๋วนั่ง

2.โรงแรม โรงมหรสพ ห้องประชุม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า โรงภาพยนตร์ ให้จัดประชุม อบรม สัมมนา จัดแสดงสินค้า จัดเลี้ยง จัดพิธี การแสดงนาฏศิลป์ ดนตรี การจัดแสดงคอนเสิร์ต ได้ แต่ต้องทำตามมาตรการที่ทางรัฐบาลกำหนด เช่น การจำกัดจำนวน ลงทะเบียนผ่านแอปฯไทยชนะ ทั้งนี้ กทม.ได้เพิ่มมาตรการขึ้นมาในส่วนของการจัดแสดงดนตรี และคอนเสิร์ต ต้องเป็นการขายตั๋วเฉพาะตั๋วนั่งเท่านั้น ต้องเว้นระยะห่าง กำหนดผู้เข้าชม 4 ตร.ม.ต่อคน ส่วนงานมีตแอนด์กรี๊ดยังไม่อนุญาตให้จัด

ดื่มเหล้าในร้านได้แต่ห้ามเล่นดนตรี

3.ร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วไป อนุญาตให้บริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ ส่วนสถานบริการหรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการประเภท ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังไม่ อนุญาตให้ดำเนินการ และไม่อนุญาตให้เล่นดนตรีหรือแสดงดนตรีสดภายในร้าน 4.สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์เด็กพิเศษ สถานดูแลผู้สูงอายุ สามารถเปิดได้แต่ต้องมีมาตรการตามที่กำหนด เช่น การจำกัดพื้นที่ในศูนย์ไม่น้อยกว่า 2 คนต่อ ตร.ม. การจับกลุ่มทำกิจกรรมไม่เกิน 5 คนต่อผู้ดูแล 1 คน 5.อุทยานการเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เช่นท้องฟ้า จำลอง แต่ให้ดำเนินมาตรการตามที่กำหนดไว้ 6. กองถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ วีดิทัศน์ จำกัดจำนวนคน 150 คน และให้มีผู้ชมได้ไม่เกิน 50 คน 7.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย ไม่รวมกิจการอาบอบนวด โดยต้องจำกัดเวลาในการให้บริการและจำกัดจำนวนคนเข้าใช้ มีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร

ตู้เกมตู้หยอดเหรียญถูก ก.ม.เปิดได้

8.สวนสาธารณะ ลานกิจกรรม พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ หรือลานกีฬากลางแจ้ง อนุญาตให้ออกกำลังกายแบบกลุ่มได้แต่ต้องไม่เกิน 50 คน เช่น เต้นแอโรบิก และเว้นระยะห่างระหว่างกัน 2 เมตร สวมหน้ากากอนามัยทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย 9. สวนน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสนุก ยกเว้นบ้านบอล บ้านลม ต้องให้มีการจำกัดผู้ใช้บริการ โดยให้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง 10.สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา หรือเพื่อการเรียนการสอนทุกประเภทกีฬาให้เปิดดำเนินการได้ โดยยกเว้นสนามชนโค สนามชนไก่ สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ให้มีการแข่งขันได้แต่ต้องไม่มีผู้ชมอยู่ในสนามแข่งขัน ส่วนสระว่ายน้ำควบคุมผู้เข้าใช้ 8 ตร.ม.ต่อคน และ 11.ตู้เกมเครื่องหยอดเหรียญที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย สามารถเปิดให้บริการได้ ยกเว้นร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ต

ผับบาร์คาราโอเกะชนไก่ชนชนโคปิดต่อ

โฆษก กทม.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กิจการที่ได้รับการผ่อนปรนดังกล่าวจะสามารถเปิดได้ในวันที่ 15 มิ.ย.2563 ส่วนสถานที่ที่ยังปิดอยู่ ประกอบด้วย ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบันเทิง อาบอบนวด สนามชนไก่ สนามชนโค สนามกัดปลา ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต ในส่วนนี้จะมีการระบุไว้ในประกาศของกรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 11

รมว.ทท.ดันโครงการ travel bubble

วันเดียวกัน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจในศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ของไทย จึงผลักดันโครงการ travel bubble หรือการจับคู่ประเทศเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดีเท่าๆกัน เป็นความร่วมมือในลักษณะทวิภาคีด้านการท่องเที่ยวแบบใหม่ ที่ทั่วโลกกำลังหันมาสนใจภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มดีขึ้น

4 กท.หารือเตรียมสรุปเสนอ ศบค.

น.ส.ไตรศุลีกล่าวต่อว่า ล่าสุดที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ให้ความเห็นชอบในหลักการแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นของการหารือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหาข้อสรุปในแนวทางการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการเจรจากับประเทศกลุ่มเป้าหมาย ข้อปฏิบัติต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาด ก่อนเสนอ ศบค.พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 17 มิ.ย. การเปิดรับนักท่องเที่ยวตามแนวทาง travel bubble จะไม่มีการกักตัว 14 วัน แต่มีมาตรการอื่นรองรับ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย

ถนนคนเดินเซราะกราวเปิดแล้ว

ด้านบรรยากาศแหล่งท่องเที่ยวในต่างจังหวัด ที่ถนนคนเดินเซราะกราว วอล์กกิ้งสตรีท ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ กลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อเย็นวันที่ 13 มิ.ย. หลังปิดให้บริการมานานกว่า 3 เดือน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายซื้อของจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบระดับตำบลในเมืองนำเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 จัดระเบียบจำหน่ายสินค้า รักษาระยะห่าง คัดกรองโรคอย่างเคร่งครัด ก่อนเข้าต้องตรวจวัดอุณหภูมิ ใช้เจลล้างมือ ผู้ประกอบการและประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ผู้ประกอบการอาหารต้องใส่ผ้ากันเปื้อน ถุงมือ และหมวกคลุมผม ล็อกจำหน่ายอาหารให้มีฉากกั้นระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และมีการเว้นระยะห่างระหว่างล็อก สำหรับถนนคนเดินเซราะกราว วอล์กกิ้งสตรีท เป็นตลาดที่มีร้านค้าประเภท อาหารการกิน เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ของฝากของที่ระลึก เปิดขายทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. ช่วงนี้ยังไม่มีการแสดงบนเวที

เขาใหญ่พร้อมรับนักท่องเที่ยว

ขณะที่ พ.ต.นรินทร์ ปิ่นสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เผยว่า หลังจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมเปิดการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. สำหรับอุทยานฯเขาใหญ่ หลังจากปิดไม่ ให้คนเข้ามาเที่ยวนานกว่า 3 เดือน ส่งผลให้สัตว์ป่านานาชนิดไม่มีสิ่งรบกวน ได้อยู่กับธรรมชาติของป่าอย่างแท้จริง สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็มีให้เห็น เช่น โขลง ช้างกว่า 30 ตัว ฝูงหมูป่าออกมาเดินตามถนน เลียงผาออกเดินชมวิวที่ผาเดียวดาย นกเงือกออกหาผลไม้ไปป้อนลูกน้อยในโพรงต้นไม้ใหญ่ รวมทั้งฝูงเก้งป่าพากันเล่นน้ำคลายร้อนในลำธาร ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. อุทยานฯเขาใหญ่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว มีมาตรการคัดกรอง นักท่องเที่ยวต้องใส่หน้ากากอนามัย สแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจวัดความเร็วการจราจร รวมทั้งจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวและที่กางเต็นท์ตามสถานที่ต่างๆ ลดลงมาเหลือ 1 ใน 3 พร้อมกำหนดกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด

สวนน้ำลอยฟ้าเซ็นทรัลบางนาพร้อม

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวออกสำรวจกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนปรนเฟส 4 และเตรียมพร้อมที่จะกลับมาเปิดอีกครั้ง โดยที่สวนน้ำลอยฟ้าโพโรโระ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา เจ้าหน้าที่ของสวนน้ำโพโรโระช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่ พร้อมจัดเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะเก้าอี้และฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ห่วงยาง รวมทั้งบริเวณล็อกเกอร์เก็บของ และบริเวณจุดสัมผัสต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อก่อโรคโควิด-19 เป็นการเตรียมพร้อมกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 15 มิ.ย. หลังปิดบริการมานานกว่า 2 เดือน

“จุรินทร์” เยี่ยมเยียนชาวบ้านโป่ง

ส่วนการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลจากพิษไวรัสโควิด-19 วันเดียวกัน ที่วัดอัมพวนาราม (วัดดงมะม่วง) อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีผู้พิการและผู้สูงอายุจาก ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง มารับถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนจากห้างแม็คโครและบริษัทซีพี นายจุรินทร์กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าดูแลช่วยเหลือเยียวยาประชาชนพร้อมเร่งรัดโครงการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนทุกกลุ่ม โครงการประกันรายได้ และดูแลราคาพืชผลทางการเกษตร โดย อ.บ้านโป่ง เป็นหนึ่งใน 878 อำเภอที่กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ลอต 4 เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์และลดค่าครองชีพให้ประชาชน นำสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันมาจำหน่ายในราคาถูก

ท่องเที่ยวพัทลุงโอด ธ.ไม่ปล่อยกู้

วันเดียวกัน นายเงินวสวัตติ์ ลิ่มทวีสกุล อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง เผยว่า จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้สถาบันการเงินภาคเอกชนต่างชะลอสินเชื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกหนี้ชั้นดีก็ตาม ธนาคารน่าจะเชื่อว่าเมื่อปล่อยไปแล้วจะเกิดทั้งหนี้เก่าและหนี้ใหม่ขึ้น เนื่องจากธุรกิจการท่องเที่ยวยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติทำให้ขาดกำลังซื้อจนผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องและไม่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัดพัทลุงต้องมุ่งไปในแนวทางการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับกลุ่มรากหญ้า โดยให้ภาครัฐและเอกชนเข้ามาสนับสนุนส่งเสริมการซื้อขายด้วย รวมทั้งสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มนายทุนเข้ามากดราคาซื้อขาย มั่นใจว่ามาตรการนี้จะสามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มคนระดับรากหญ้า และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แน่นอน

ผ่อนปรน “ละหมาดญะมาอะห์”

นายศักระ กปิลกาญจน์ รอง ผวจ.สตูล กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลมีมาตรการคลายล็อกเฟส 4 ในวันที่ 15 มิ.ย. สำนักจุฬาราชมนตรีพิจารณาเห็นควรผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์ สำหรับมัสยิดที่มีความพร้อมปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ดังนี้ ให้คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดที่มีความประสงค์จะปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์ แจ้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดในการปฏิบัติตามประกาศจุฬาราชมนตรี มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามัสยิด จัดเจลล้างมือแอลกอฮอล์ งดใช้บ่อน้ำหรืออ่างใหญ่ร่วมกัน ทำความสะอาดมัสยิดอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ จัดทำเครื่องหมายจุดละหมาดให้เว้นระยะห่างควบคุมทางเข้าออกมัสยิด จัดทำบันทึกผู้เข้าละหมาดญะมาอะห์เพื่อความสะดวกในการติดตามตัว และยังมีมาตรการอื่นๆอีกตามประกาศสำนักจุฬาราชมนตรี ขอให้ทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดอีกครั้ง

ตร.ปรับแผนรองรับยกเลิกเคอร์ฟิว

อีกด้านหนึ่ง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตามที่ รัฐบาล และ ศบค.มีคำสั่ง ศบค. ที่ 5/2563 เรื่องแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 4) และข้อกำหนดฯ (ฉบับที่ 10) ลง 12 มิ.ย.63 ให้ยกเลิก การห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.63 พร้อมทั้งมีมาตรการผ่อนคลายการใช้อาคารสถานที่ การดำเนินกิจกรรมบางอย่าง และ ว.ตร. ด่วนที่สุด ที่ 0007.35/1680 ลง 12 มิ.ย.63 สั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการและถือปฏิบัติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติในทุกพื้นที่ ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนในช่วงที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการตรวจสอบการดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค โดยห้วงที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชาชน ผู้ประกอบการ ในการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายกิจกรรม กิจการ ร้านค้า สถานประกอบการ สนามกีฬา โรงแรมต่างๆเป็นอย่างดี

กำชับกวดขันจับกุมผู้ซ้ำเติม ปชช.

รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายทุกพื้นที่ ให้ผู้บังคับบัญชาหมั่นบำรุงขวัญกำลังใจ พร้อมลงไปกำกับดูแลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.63 เป็นต้นไปให้ปรับแผนการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เป็นจุดตรวจความมั่นคง และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์ พร้อมให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและฝ่ายสืบสวน ออกตรวจพื้นที่และติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคง รวมทั้งกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดที่ซ้ำเติมประชาชน กระทบต่อความสงบสุขของประชาชนและสังคม เช่น การ ประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สิน การกู้ยืมเงินโดย มีอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือการหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การรวมกลุ่มแข่งรถในทาง ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ขับรถในขณะเมาสุรา ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด การหลบหนีเข้าเมือง ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ หรือความผิดอันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ ประกาศ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างมีรูปธรรม

เข้มกิจการ/กิจกรรมที่ผ่อนปรน

รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ผบ.ตร. ให้ออกคำสั่งมอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดสืบสวนหาข่าวไว้โดยกำหนดจำนวนเวลาการปฏิบัติหน้าที่ให้ชัดเจน เพื่อใช้ในการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนของทางราชการของผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องออกตรวจติดตาม ตรวจสอบการใช้อาคารสถานที่หรือสถานประกอบการ การทำกิจกรรมด้านต่างๆที่ได้รับการผ่อนคลาย โดยเฉพาะกิจการและกิจกรรมในระยะที่ 4 ว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดฯดังกล่าวครบถ้วนหรือไม่ หากพบว่ายังมีการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด คำสั่ง หรือประกาศที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้เหมาะสมตามสมควรแก่กรณี

โพลชี้ผ่อนปรนคนจ้องแอ่วเชียงใหม่

วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล โดยมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจทางออนไลน์ถึงพฤติกรรมท่องเที่ยวของคนไทยหลังคลายล็อกดาวน์ จาก 1,116 กลุ่มตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9-12 มิ.ย.ว่า 5 จังหวัดที่ประชาชนอยากไปเที่ยวมากที่สุดหลังจากรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ อันดับ 1 ร้อยละ 31.00 ระบุเชียงใหม่ อันดับ 2 ร้อยละ 28.14 ระบุประจวบคีรีขันธ์ อันดับ 3 ร้อยละ 19.35 ระบุกรุงเทพมหานคร อันดับ 4 ร้อยละ 18.55 ระบุชลบุรี และอันดับ 5 ร้อยละ 11.92 ระบุกาญจนบุรี

เลี่ยงโควิดต้องจำกัด นทท.ให้เหมาะสม

เมื่อถามถึงประชาชนคิดว่าควรท่องเที่ยวอย่างไรจึงจะปลอดภัยจากโควิด-19 ส่วนใหญ่ร้อยละ 83.29 ระบุควบคุม จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมตามขนาดของแต่ละพื้นที่ รองลงมาร้อยละ 82.84 ระบุเลือกสถานที่ที่มีการทำความสะอาด พ่นฆ่าเชื้อก่อนและหลังการให้บริการทุกครั้ง ร้อยละ 78.50 ระบุมีการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิของนักท่องเที่ยว ร้อยละ 74.07 ระบุผู้ให้บริการ พนักงานขับรถ ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งในขณะปฏิบัติหน้าที่ ร้อยละ 72.09 ระบุจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้แก่นักท่องเที่ยว ร้อยละ 69.56 ระบุเว้นระยะห่างทางสังคม และร้อยละ 53.84 ระบุเที่ยวคนเดียวหรือไปเป็นกลุ่มเล็ก ไม่ไปเป็นกลุ่มใหญ่

ยังไม่อยากรับ นทท.ต่างชาติเข้า ปท.

ส่วนคำถามคิดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งภายในระยะเวลาเท่าใด ส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.40 ระบุ 1 ปี ร้อยละ 25.90 ระบุ ภายใน 6 เดือน และร้อยละ 20.52 ระบุ 2 ปี และเมื่อถามว่าอยากให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเที่ยวในประเทศไทยหรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 54.39 ระบุไม่อยากให้เข้ามา อยากเชิญชวนให้คนไทยเที่ยวในประเทศก่อน ร้อยละ 24.28 ระบุอยากให้เข้ามาเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประเทศ และร้อยละ 21.33 ระบุไม่อยากให้เข้ามา เพราะกลัวแพร่เชื้อโควิด-19