ว่ากันว่าข่าวดีมักมาพร้อมข่าวร้ายเสมอ
ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด ประกาศช่วยเหลือสมาชิกช่วยวิกฤติเชื้อโควิด-19 ให้ข้าราชการตำรวจผ่อนผันชำระเงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้รับผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ปรากฏหลายคนกลับเจอปัญหาความเดือดร้อนกรณี ขอใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) ตามโครงการจัดหาอาวุธปืนเพื่อเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจขึ้นอีกรอบ
เมื่อต้อง “เสียค่านักเลง” แก่คนในเครื่องแบบข้าราชการต่างสังกัดเหมือนเป็น “เบี้ยบ้ายรายทาง” แลกการอำนวยความสะดวกของขั้นตอนการขอใบอนุญาต
ราวกับคำสั่ง ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครองคนเก่าหมดความขลัง
ครั้งนั้น เจ้าตัวมีหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้กำชับนายทะเบียนและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการตำรวจผู้มีสิทธิซื้ออาวุธปืน
หลังปรากฏเรื่องร้องเรียนหลายกรณี อาทิ มีการประวิงเวลา ดำเนินการล่าช้าเกินสมควร พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติเกินกว่าขอบเขตกฎหมายกำหนด ตลอดจนการเรียกรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อแลกกับความรวดเร็วในการอนุญาต
เป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อความเป็นข้าราชการและส่อไปในทางทุจริต
คำสั่งดังกล่าวได้กำชับให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการตรวจสอบคุณสมบัติ ห้ามพิจารณาเกินกว่าขอบเขตกฎหมายกำหนด เช่น เรียกใบรับรองแพทย์ เรียกใบรับรองทดสอบสมรรถภาพการใช้ปืน
ขณะเดียวกัน เมื่อผู้บังคับบัญชาของข้าราชการตำรวจได้รับรองความประพฤติของข้าราชการตำรวจผู้ยื่นคำขอให้ถือสถานภาพเป็น ข้าราชการโดยสมบูรณ์ นายทะเบียนไม่ต้องดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติด้วยวิธีการใดเพิ่มอีก
...
ผ่าน 2 ปีกว่าเปลี่ยน อธิบดีกรมการปกครองคนใหม่
เหลือบไรได้ใจกลับมาอาละวาดหากิน “ค่านักเลง” กันต่อ.
สหบาท