วันนี้ไม่เพียงหน้ากากอนามัยจะขาดแคลน...แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เจลล้างมือ ป้องกันการระบาดของโควิด-19 อยู่ในสภาพเดียวกัน แพงและหาซื้อได้ยาก

ทั้งที่บ้านเราเป็นประเทศเกษตรกรรม มีวัตถุดิบล้นตลาดที่จะนำมาผลิตได้มากมาย ไม่ว่า มันสำปะหลัง อ้อย กากน้ำตาล ข้าว ฯลฯ พืชทุกชนิดที่อุดมไปด้วยแป้ง น้ำตาล เอามาทำแอลกอฮอล์ได้ทั้งนั้น...ที่สำคัญ บ้านเรามีโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ 99.5% หรือเอทานอล 26 แห่ง มีกำลังผลิตรวมกันวันละ 6,250,000 ลิตร

แต่กลับไม่สามารถนำมาผลิตเป็นแอลกอฮอล์ 70% มาจำหน่ายในราคาถูกได้ เพราะผู้มีอำนาจในระบบราชการและการเมือง ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์โบราณ...อุ้มชูนายทุนโรงเหล้าให้ขายผูกขาดได้ชั่วกัลปาวสาน

ทั้งที่นี่คือการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ได้ทั้งแก้ปัญหาเศรษฐกิจเกษตร-กรฐานราก และวิกฤติไวรัสโควิด-19 ไปพร้อมๆกัน

แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อขาดแคลนและแพงเสียจนร้านขายยายังไม่กล้าซื้อมาขาย โรงงานผลิตแอลกอฮอล์ 99.5% ทั้ง 26 แห่ง ยังมีช่องว่างให้เพิ่มกำลังผลิตได้อีกวันละ 1.8 ล้านลิตร

เพราะโรงงานเหล่านี้ยังไม่ได้เดินเครื่องเต็มประสิทธิภาพ 100% เลย...ปัจจุบันใช้กำลังผลิตแค่ 70% เนื่องจากความต้องการใช้เอทานอลไปผลิตแก๊สโซฮอล์ E10, E20, E85 มีแค่วันละ 4.42 ล้านลิตร

คิดดูก็แล้วกัน ถ้าให้โรงงานเหล่านี้ผลิตเอทานอลเพิ่มมาอีกวันละ 1.83 ล้านลิตร ทำเป็นแอลกอฮอล์ 70% ฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้มากถึงวันละ 2.59 ล้านลิตร...ไม่เพียงคนไทยจะมีแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อใช้อย่างพอเพียง เกษตรกรยังมีรายได้เพิ่มอีกต่างหาก

จะเป็นการแก้ปัญหาฉลาดๆ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหรือไม่

ในวิกฤติเยี่ยงนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล้าพอมั้ย ที่จะแก้กฎกระทรวงและประกาศกระทรวงการคลัง...เลิกให้องค์การสุราผูกขาดผลิตแอลกอฮอล์ หรือที่เรียกกันว่า “สุราสามทับ” ได้เพียงเจ้าเดียว.

...

สะ–เล–เต