สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจต่อเนื่องมาจากบทความเมื่อวันอังคารที่ผ่าน เกี่ยวกับกรณีผู้เช่าซื้อขอคืนรถยนต์ให้แก่บริษัทไฟแนนซ์ ก่อนที่บริษัทไฟแนนซ์จะมีหนังสือบอกเลิกสัญญา ต่อมามีพนักงานของบริษัทไฟแนนซ์มารับมอบรถยนต์คืนไปแล้ว โดยพนักงานของไฟแนนซ์อ้างว่าจะหาคนซื้อให้ พร้อมกับเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อทันที

เมื่อพนักงานของบริษัทไฟแนนซ์ได้รับมอบรถยนต์ไปแล้ว กลับเงียบหาย จนกระทั่งบริษัทไฟแนนซ์ยื่นฟ้องผู้เช่าซื้อเป็นจำเลย เพื่อให้ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืน หากคืนรถยนต์ไม่ได้ ให้ชดใช้ราคารถยนต์แทน พร้อมกับค่าเสียหายอื่นๆ

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ การที่ผู้เช่าซื้อได้ส่งมอบรถยนต์คืนให้แก่พนักงานของบริษัทไฟแนนซ์แล้ว ต่อมาพนักงานคนดังกล่าวถูกไล่ออก และผู้เช่าซื้อก็ถูกฟ้องให้ส่งมอบรถยนต์คืนอีก ผู้เช่าซื้อจำเป็นจะต้องหารถมาคืนให้บริษัทไฟแนนซ์หรือไม่

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเป็นฝ่ายเริ่มต้นติดต่อกับโจทก์เพื่อคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อ แสดงให้เห็นจุดประสงค์ของจำเลยที่ต้องการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อเท่านั้น เมื่อโจทก์ได้รับการติดต่อก็ตกลงและนัดหมายรับรถยนต์ที่เช่าซื้อไปคืนโดยมอบหมายให้ ส. ตัวแทนโจทก์ การที่จำเลยส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อให้แก่ ส. จึงเป็นการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อด้วยการส่งมอบทรัพย์คืนแก่โจทก์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 573 สัญญาเช่าซื้อเป็นอันเลิกกันนับแต่วันดังกล่าวแล้ว แม้ต่อมาจำเลยจะตกลงขายสิทธิการเช่าซื้อให้ ส. ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากสัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้ว เมื่อจำเลยมิได้ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อและไม่ปรากฏว่าขณะเลิกสัญญาจำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดต่อโจทก์อย่างไร จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้อง อ้างอิง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14324/2558

...

สุดท้ายนี้ หากมีผู้ที่มาขอรับรถยนต์คืนจากท่าน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ท่านแจ้งความประสงค์ไปให้บริษัทไฟแนนซ์มารับรถยนต์คืน หรือเป็นกรณีที่พนักงานของบริษัทไฟแนนซ์มาตามยึดรถยนต์ที่บ้านของท่าน หลังจากที่บริษัทไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วก็ตาม ท่านต้องขอดูบัตรประจำตัวพนักงานของบุคคลดังกล่าว ถ่ายภาพบัตรประชาชน บัตรอื่นๆ และใบหน้าของทุกคนที่มาติดต่อ พร้อมทั้งไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และตรวจดูสภาพรถโดยรอบ ให้ถูกต้องตามแบบฟอร์มที่พนักงานของบริษัทไฟแนนซ์นำมาให้ท่านใส่รายละเอียดก่อนลงนาม

ส่วนการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อนั้น สามารถทำได้ภายใต้ความยินยอมของผู้ให้เช่าซื้อหรือบริษัทไฟแนนซ์ครับ แต่ที่สำคัญควรดำเนินการเปลี่ยนสัญญาให้เรียบร้อยก่อนที่จะส่งมอบรถยนต์ มิฉะนั้น อาจจะเกิดเป็นปัญหาตามคำพิพากษาฎีกาตัวอย่างข้างต้นได้

สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ หรือ Facebook: ทนายเจมส์ LK Instagram : james.lk