นายวัชรพงษ์ รัตนปิลัมธน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท บี-เวลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ Bwell กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 กลายเป็นปัญหาระดับชาติ ในปีพ.ศ.2562 คนไทยให้ความสนใจซื้อเครื่องฟอกอากาศมากที่สุด ซึ่งประเทศไทยมีปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 มานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีการตระหนักถึงผลกระทบที่ส่งผลต่อสุขภาพ เมื่อมีกระแสข่าวเรื่องฝุ่น PM2.5 เครื่องฟอกอากาศกลายเป็นเครื่องไฟฟ้าจำเป็นที่ต้องมีทุกบ้าน ส่งผลให้ยอดขายเติบโตเท่าตัว ทั้งนี้ การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดกรณี ฝุ่น PM2.5 คือการแก้ไขที่ต้นเหตุโดยลดปริมาณจากแหล่งกำเนิด เช่นควันรถยนต์ การเผาไหม้ อุตสาหกรรม การก่อสร้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องควบคุมและประชาชนต้องให้ความร่วมมือ
“เครื่องฟอกอากาศ Bwell เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่ออกแบบสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ sensitive เช่นเด็กและผู้ป่วยภูมิแพ้โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการปล่อยประจุบวก ประจุลบและโอโซน นอกจากนี้ยังมีระบบฟอกอากาศที่ออกแบบตามมาตรฐานการฟอกอากาศของหน่วยงานรักษาสิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีระบบฟอกอากาศ 7 ขั้นตอนในเครื่องเดียวครอบคลุมการกรองฝุ่น ดูดกลิ่น และฆ่าเชื้อโรค”
ปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศ Bwell มีทั้งหมด 8 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ราคาเริ่มที่ 1,990 บาทสำหรับเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ไปจนถึงเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ในห้องราคา 32,990 บาท โดยเฉพาะรุ่น CF-8000 เป็นเครื่องฟอกอากาศแบบ 2-in-1 นับเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในวงการเครื่องฟอกอากาศที่ Bwell พัฒนาขึ้นมาให้เป็นเครื่องฟอกอากาศที่สามารถใช้งานได้ทั้งในบ้านและในรถยนต์ ส่วนรุ่น CF-8608 เหมาะกับหน่วยงาน องค์กร เนื่องจากกรองฝุ่นได้ละเอียดถึง 0.008 ไมครอน
Bwell เป็นแบรนด์เครื่องฟอกอากาศโดยเฉพาะที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบฟอกอากาศ และให้ความสำคัญกับ R&D และการออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องจนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจำนวนมาก รวมถึงหน่วยงาน องค์กรชั้นนำต่างๆ อาทิ โรงพยาบาล คลินิก โรงเรียน สถานทูต หน่วยงานรัฐ บริษัทเอกชน ปัจจุบันมีจำหน่ายใน ห้างสรรพสินค้า Paragon Emporium Central Homepro The Mall Powerbuy โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลกรุงเทพ เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีแผนที่จะเพิ่มจุดจำหน่ายในต่างจังหวัดภายในปีนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bwellairpurifier.com