บอนไซ ศิลปะการย่อส่วนไม้ใหญ่มาไว้ในกระถาง แม้จะมีต้นกำเนิดจากจีน แต่รากศัพท์ของคำว่าบอนไซ ที่แพร่หลายไปทั่วโลกมาจากชาวญี่ปุ่น...ถือเป็นไม้แห่งจินตนาการ ราคาค่างวดถูกแพงขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งสองฝ่าย
ส่วนใหญ่มักนิยมใช้ต้นตะโก มะสัง ข่อย โพธิ์ เฟื่องฟ้า ตลอดจนไม้ให้ผลอย่าง มะขาม มะขามเทศ ทับทิม มะพร้าว ไม้ผลตัวล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมะพร้าว
แต่วันนี้มีเกษตรกรหัวใส เอามัลเบอร์รีหรือ หม่อน ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากทั้งใบและผลมาทำเป็นไม้ดัด ได้ทั้งสวยงามบวกกับผลไว้กินเล่น อัปเกรดจากขายกิ่งละ 70 บาท กลายเป็นตั้งแต่ต้นละ 300–30,000 บาท ขึ้นกับขนาด อายุ และรูปทรง
“ปลูกมัลเบอร์รีมาหลายปี ทั้งขายเป็นผลสดและแปรรูปเป็นแยม น้ำมัลเบอร์รี กระทั่ง 10 ปีที่แล้วมัลเบอร์รีสายพันธุ์ยูนนานเริ่มเข้ามาในไทยเลยลองปลูก พบว่าดูแลง่าย ให้ผลผลิตดี แม้ต้นยังไม่โต เพาะขยายพันธุ์ไม่ยาก แม้สายพันธุ์นี้ต้นจะใหญ่แข็งแรง แต่กิ่งกลับมีความยืดหยุ่นสูงกว่าพันธุ์อื่น เลยลองเอามาดัดให้เหมือนบอนไซ ปรากฏว่าได้รูปทรงสวยงามตามที่ต้องการ”
...
นิรันดร์ชัย เกษบึงกาฬ เจ้าของสวนเอเวอร์กรีน เขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บอกถึงที่มาของการทำบอนไซหม่อน ที่ได้ทั้งความสวยงามสไตล์คลาสสิก และผลไว้รับประทาน...เริ่มที่การเลือกกิ่งสีน้ำตาล สมบูรณ์ ขนาดไม่เล็กจนเกินไป มียอดแตกแขนงแผ่สวยงาม นำมาปักชำในกระถาง จากนั้นนำลวดมาดัดให้ได้รูปทรงตามต้องการ
หากอยากได้ต้นตอใหญ่ราคาสูง ให้หมั่นริบใบและยอดออก ให้อาหารเลี้ยงต้นตอให้ใหญ่ก่อน แล้วจึงไว้ใบและยอดได้ เมื่อได้ขนาดตอตามต้องการ
จากนั้นเพิ่มความสวยงามของกระถางด้วยหิน ตุ๊กตาเซรามิกประดับ มอส หรือตอไม้ต่างๆตามต้องการ หากจะเพิ่มมูลค่าเข้าไปอีก ให้เลือกใช้กระถางเซรามิกหรือดินเผาที่มีรูปทรงสวยงาม แต่ข้อจำกัด...กว่าจะเป็นมัลเบอร์รีดัดได้รูปทรงตามที่ต้องการ ต้องใช้เวลาในการดัดไม่น้อยกว่า 2 ปี
นิรันดร์ชัย บอกว่า หม่อนดัดดูแลง่าย ปลูกได้ในดินแทบทุกประเภท ทนอึด ไม่ค่อยมีโรค สามารถเลี้ยงในพื้นที่เล็กๆ หรือในบ้านได้ ขอเพียงมีแสงแดดเข้าถึง และรดน้ำเป็นประจำทุกวัน แต่ควรระวังไม่ให้มดขึ้น เพราะจะนำเพลี้ยแป้งมาทำลายต้นได้
เมื่อต้นใหญ่ขึ้นควรเปลี่ยนขนาดกระถางให้สมดุลกับต้น และควรหมั่นตัดแต่งกิ่งใบไม่ให้รกเกินไป ที่สำคัญไม่ควรไว้ใบมากนัก เพราะหากใบมากเกิน ผลจะน้อย สนใจสอบถามได้ที่ 08-1790-1924.
กรวัฒน์ วีนิล